Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

ทางวิปัสสนา (๒๖) ดูจิตไม่ได้ ให้ดูกาย ดูกายไม่ได้ ให้ทำความสงบ

ทางวิปัสสนา (๒๖) ดูจิตไม่ได้ ให้ดูกาย ดูกายไม่ได้ ให้ทำความสงบ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ทางวิปัสสนา

ทางวิปัสสนา

โยม : นมัสการค่ะหลวงพ่อ

หลวงพ่อ : กลัวมั้ย

โยม : มากเลยค่ะหลวงพ่อ ก็หลวงพ่อเคยให้ไปดูตัวกุกกุจจะน่ะค่ะหลวงพ่อ แล้วสักช่วงประมาณต้นปีน่ะค่ะ หนูมีความรู้สึกว่า เหมือนกับหนูไม่คาดหวัง มันก็ดีขึ้นค่ะ (หลวงพ่อ : ใช่) ปฏิบัติแล้วหนูก็รู้สึก “ดีเนอะ” แต่พักนี้มันกลับมาอีกแล้วค่ะ

หลวงพ่อ :
กลับมาก็รู้ทันมันอีก ห้ามมันไม่ได้ (โยม : ค่ะ) ล้วนแต่ของห้ามไม่ได้

โยม : หนูอยากถามเรื่องรูปแบบน่ะค่ะ (หลวงพ่อ : อือ..) คือ ตอนส่งการบ้านครั้งแรกหลวงพ่อบอกว่า หนูหลงไปนาน แล้วหนูก็พอมาปรับ มันก็เพ่ง ทีนี้สักช่วงประมาณปลายปีต้นปีค่ะ หนูก็ทำในรูปแบบแล้วมัน คือมันเหมือนหลงไปในสมาธิ มันเป็นมิจฉาสมาธิใช่มั้ยคะ (หลวงพ่อ อือ..ใช่) หนูก็เลยไม่รู้ว่า..

หลวงพ่อ : พยายามรู้สึกตัวบ่อยๆนะ พยายามรู้สึกร่างกายไว้ให้มาก ร่างกายขยับเขยื้อน ร่างกายยิ้ม ร่างกายทำอะไรให้รู้สึกบ่อยๆ จิตจะมีพลังขึ้นมา

โยม : เพราะฉะนั้นหมายความว่า ช่วงเวลาช่วงนี้ หนูเหมาะจะดูกายมากกว่าดูจิต

หลวงพ่อ : ใช่ หนูคอยรู้สึกร่างกายที่กระดุกกระดิกไว้ เพราะจิตของหนูกำลังฟุ้งซ่าน มันสับสนนะ พอมันฟุ้งซ่านอยู่อย่างนี้ เราดูจิตดูใจ ดูไม่ออกแล้ว เมื่อดูจิตไม่ออกให้ดูกายไว้ก่อน

โยม : แล้วเวลาอย่างไหนที่เหมาะจะดูจิตคะ เพราะหนูก็สังเกตเหมือนกับที่หลวงพ่อเคยบอก คือบางเวลาเรารู้สึกกายดีกว่า บางเวลาเรารู้สึกกับจิตดีกว่า

หลวงพ่อ : ใช่ คือช่วงไหนดูจิตได้ให้ดูจิต (โยม : ค่ะ) ช่วงไหนดูจิตไม่ได้ให้ดูกาย ช่วงไหนดูจิตก็ไม่ได้ ดูกายก็ไม่ได้ ให้ทำสมถะ มันมีแนวรุกแนวรับของมันนะ

โยม : เพราะฉะนั้นหนูทำแบบเดิมที่หลวงพ่อเคยสอนได้ใช่มั้ยคะ อีกสองเรื่องนะคะ คือหนูป่วยบ่อยน่ะค่ะ พักนี้หนูปวดหัวมาก แล้วเวลาหนูปวดหัวปุ๊บ มันดูไม่ออกน่ะค่ะ

หลวงพ่อ : หนูคอยหัดแยก แยกตั้งแต่ยัปวดน้อยๆน่ะนะ เช่น กำลังปวดนิดหน่อย อะไรอย่างนี้ ให้ดูไป ร่างกายก็เป็นอันหนึ่ง ความปวดเป็นอันหนึ่ง จิตเป็นอันหนึ่ง หัดแยก ตัวนี้ทุกคนควรทำนะ เพราะวันหนึ่ง เวลาจะตายเนี่ย ไม่แน่นี่ว่าอาจจะเจ็บมาก ถ้าเจ็บมากแล้วภาวนาไม่ไหวนะ สติแตกเนี่ย แย่เลย

โยม : ใช่ค่ะ หนูก็กลัว บางทีปวดมากๆ หนูก็กลัวไปเลย

หลวงพ่อ : เพราะฉะนั้นต้องซ้อม ต้องซ้อม

โยม : แล้วจะซ้อมได้ยังไงคะ คือ หนูปวดหัวแล้วไปบังคับไม่ได้ว่า ให้แก้ปวดหัวตอนนี้หน่อยสิ

หลวงพ่อ : ไม่ใช่ๆ ไม่ได้ฝึกให้หายปวดหัว เราปฏิบัติไม่ใช่เพื่อเอาชนะขันธ์นะ ร่างกายก็ส่วนร่างกาย ความปวดก็ส่วนความปวด จิตที่เป็นคนดู อะไรอย่างนี้ สังเกตอย่างนี้ เวลาปวดหัวขึ้นมาเนี่ย จิตไม่พอใจ รู้ ว่าจิตไม่พอใจ แค่นี้ก็หัดแยกแล้ว (โยม : แค่นี้ก็พอเลย) ให้หัดอย่างนี้ก็ได้ จิตจะสงบ พอรู้ว่าจิตไม่พอใจนะ ความไม่พอใจะดับ จิตจะสงบ พอจิตสงบแล้วจะเห็นเลย ร่างกายอยู่ส่วนหนึ่ง ความปวดหัวอยู่อีกส่วนหนึ่ง

โยม : ก็อีกเรื่อง เรื่องสุดท้ายค่ะ คือ หนูก็ฝึกกับหลวงพ่อมาพักหนึ่งแล้วล่ะค่ะ พักนี้มันรักตัวเองมากค่ะ (หลวงพ่อ : อือ) หนูกลัวแก่ค่ะ แบบครีมมีกี่ตัวในตู้เย็น หนูก็เอามาโปะบนหน้าตลอดเลยค่ะ แล้วแบบ พอโปะเสร็จหนูก็จะรู้สึกผิดกับตัวเอง เหมือนมันเผลอไปน่ะค่ะ รู้สึก…

หลวงพ่อปราโมทย์ : หลวงพ่อถึงบอกว่า ให้หนูดูกายให้เยอะ (โยม : ค่ะ) เพราะช่วงนี้หนูรักกาย ถ้าหนูดูกายมากๆนะ หนูจะเห็นว่าร่างกายนี้ ไม่สุข ไม่สบาย ไม่สวย ไม่งาม นะ แล้วจิตจะค่อยคลายตัวที่ติดอยู่นั้นแหละ นี่แหละที่ทำให้หลวงพ่อบอกว่า ต้องดูกายนะ ช่วงนี้

โยม : เพราะฉะนั้นช่วงนี้ดูกาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : ดูกายเยอะๆ แล้วต่อไปจะเห็นจิตชัด

โยม :
ขอบคุณมากค่ะ

550409.53m11-56m56

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.

File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๕๒ วินาทีที่ ๑๑ ถึง นาทีที่ ๕๖ วินาทีที่ ๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ปล่อยวางกาย ปล่อยวางใจเป็นเช่นไร?

ปล่อยวางกาย ปล่อยวางใจเป็นเช่นไร?

ปล่อยวาง หมายถึง ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่ากายใจนี้เป็นตัวเราเป็นของเรา
ผู้ที่ปล่อยวางได้ จิตก็จะพ้นไปจากกองทุกข์หรือเรียกว่านิพพาน

การจะปล่อยวางได้ ก็ต้องปฏิบัติภาวนาตามหลักของพุทธศาสนา
คือต้องปฏิบัติภาวนา รักษาศีล ฝึกจิตให้มีสมาธิ(จิตตั้งมั่น) เจริญปัญญา
ส่วนในรายละเอียดของการปฏิบัติภาวนานั้น ก็มีอยู่หลากหลายวิธีการ
การหัดรู้กายรู้ใจ ด้วยจิตที่มีสติมีความตั้งมั่น ก็เป็นวิธีการหนึ่ง
ที่สามารถนำไปสู่การเกิดปัญญา ปล่อยวางกายปล่อยวางจิตได้

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทางวิปัสสนา (๒๕) เมื่อเป็นคนหงุดหงิดง่าย ให้คอยรู้ทันความหงุดหงิด

mp3 for download : ทางวิปัสสนา (๒๕) เมื่อเป็นคนหงุดหงิดง่าย ให้คอยรู้ทันความหงุดหงิด

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ทางวิปัสสนา

ทางวิปัสสนา

โยม : กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ หนูไม่ได้ส่งการบ้านหลวงพ่อนานมากแล้วค่ะ แล้วก็ ภาพรวมก็คือ การปฏิบัติก็วนเวียนแต่ความเข้าใจที่หลวงพ่อพูด แล้วก็ค่อยๆเข้าใจมากขึ้นน่ะค่ะ แล้วก็ หนูก็ฟังหลวงพ่อแล้วหนูก็ไปคิดเยอะมากเลยค่ะ หนูเพิ่งจะเข้าใจว่า หนูน่ะไปคิดตลอด แล้วก็เพิ่งจะรู้ว่า เรียนรู้ที่จะเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อไม่นานมานี้น่ะค่ะ ก็ขอคำแนะนำจากหลวงพ่อด้วยค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ :
ก็ดีนะ แต่ว่าไม่ว่าจะเผชิญกับอะไรนะ ถ้าใจเราหงุดหงิด ใจเรารำคาญ ใจเราเป็นอย่างไร เราก็รู้ทันะ คือ เวลาที่เราเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆเนี่ย เราเจอปรากฎการณ์ต่างๆแล้วเนี่ย จิตของเราเป็นอย่างไร เรารู้ทันอีกชั้นหนึ่ง เช่น เห็นสภาวะอย่างนี้แล้วหงุดหงิด รู้ว่าหงุดหงิด หงุดหงิดเก่งมั้ย

โยม : เก่งค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : นะ หลวงพ่อก็ว่าอย่างนั้น เพราะฉะนั้นถ้าใจเราหงุดหงิด เราก็คอยรู้ทันนะ รู้ทันนะ ต่อไปใจเราสบาย ภาวนานะ ดีขึ้นเยอะแล้ว

โยม : ขอบคุณค่ะ

550409.51m58-53m10

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.

File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๕๑ วินาทีที่ ๕๘ ถึง นาทีที่ ๕๓ วินาทีที่ ๑๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ภาวนาแล้วโทสะรุนแรงกว่าเดิม

ภาวนาแล้วโทสะรุนแรงกว่าเดิม

ถาม : ช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมานี้เห็นโทสะตัวเองรุนแรงมาก ไม่เป็นกลาง คุมตัวเองไม่ได้ มักจะพูดไม่ดีออกไปบ่อยๆ และจะเห็นทั้งความอยากพูด และไม่พูดสลับกัน แต่ก็พูดไม่ดีออกไปจนได้ และก็เห็นความเศร้าตามหลัง หลังจากที่พูดไปแล้ว จริงๆ ก็ดูมันไปเรื่อยๆ คะ แต่แค่สงสัย (ก็รู้ว่าสงสัย แต่อดถามไม่ได้ค่ะ) ว่าทำไมจึงเป็นแบบนี้ ผิดตรงไหนค่ะ และจะแก้ไขอย่างไรค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ (ปกติก่อนหน้า คิดว่าควบคุมอารมณ์และวาจาตัวเองได้ดีกว่านี้ค่ะ)

ตอบ : ลักษณะแบบนี้ มักเป็นเพราะ เมื่อก่อนไปกดข่มจิตใจไว้(อาจจะไม่ทราบว่ากดข่มไว้)
พอมาหัดเจริญสติมากเข้า การกดข่มก็จะลดลง จึงทำให้โทสะแสดงตัวออกมามากขึ้น
แต่กำลังของสติปัญญายังไม่มากพอที่จะรู้ทันโดยไม่หลุดแสดงออกไม่ดีทางกายวาจา

เพราะฉะนั้นตอนนี้พอรู้สึกว่าโกรธ ต้องสำรวม(ควบคุม)กายวาจาให้มากขึ้น
ส่วนในจิตในใจถ้ายังสำรวมกายวาจาได้ก็ให้หัดดูจิตที่มีโทสะไป (แต่อย่าดูเพื่อจะให้หายโกรธ)
แต่ถ้าเห็นว่าสำรวมกายวาจาไม่อยู่แน่
ก็ให้หาอุบายมาทำความสงบให้โทสะเบาบางลงก่อน
พอโทสะเบาบางลงแล้วก็ให้หัดดูจิตต่อไปครับ
เมื่อสติปัญญาเจริญขึ้น ต่อไปก็จะรู้เท่ากันโทสะได้มากขึ้นเองครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทางวิปัสสนา (๒๔) สำหรับผู้ครองเรือน

mp3 for download : ทางวิปัสสนา (๒๔) สำหรับผู้ครองเรือน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ทางวิปัสสนา

ทางวิปัสสนา

โยม : กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ คือได้ปฏิบัติตามแนวของหลวงพ่อแล้ว ก็รู้สึกว่าทุกข์สั้นลงนะคะ แต่ทีนี้ก็คือว่า ปัญหาก็คือว่า ถ้าเกิดกรณีที่เราเกี่ยวพันกับคนอื่นเนี่ย เราจะมีความรู้สึกตัว แล้วก็คล้ายๆกับรู้สึกว่ามีอะไรขึ้นมา แต่พอที่ที่มีปัญหาคือว่า เวลาเราเกี่ยวข้องกับคนใกล้ตัว เช่นลูกเนี่ย ความรู้สึกนี้มันจะเกิดไม่ทันน่ะค่ะ แล้วก็มันก็เกิด เราคุมไม่ได้แล้วทำให้ทะเลาะกัน เราควรจะฝึกอย่างไรหรือทำอย่างไรดีคะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เราเคยชินน่ะ เราเคยชินกับลูกกับอะไรอย่างนี้ กับบางคนนะ กระทบแล้วอารมณ์มันเคลื่อนไหวรวดเร็วรุนแรงเป็นคนๆไป มันคุ้นเคยที่จะเป็นอย่างนั้น ห้ามมันยังไม่ได้หรอก บอกลูกว่าเห็นใจแม่ก่อนเถิดนะ เดี๋ยวแม่จะค่อยๆพัฒนา

โยม : แล้วควรจะมีการบ้านอย่างไรคะ

หลวงพ่อปราโมทย์ :
สังเกตที่ใจเรา ทำไมเราโมโหลูก หรืออะไร จะไปเคี่ยวเข็ญลูกนะ เรามีความอยากเกิดขึ้น เรามีความยึดถือในความคิดเห็นของเรา ว่าอย่างนี้ควร อย่างนี้ไม่ควร ถ้าลูกไม่เห็นด้วยเราก็โมโห

ที่จริงก็คือ เรามีมาตรฐานของเราอย่างนี้แหละ เขาไม่ตรงกับมาตรฐานของเรา เราก็ไม่พอใจ เรามาจากความยึดถือในความคิดความเห็นของเราเองนั่นแหละ ถ้าเราเห็นตรงนี้นะ จะคลายออก จะเหลือเหตุผล ลูกเขาก็มีเหตุผลของเขา เราก็มีเหตุผลของเรา เอามาแชร์ข้อมูลกัน อะไรเหมาะ ไม่ใช่เราขีดเส้นเลยนะ ทำอย่างนี้ไม่ได้ ทำอย่างนี้ถูก ทำอย่างนี้ผิด เราใช้มาตรฐานของเราวัดละ หลายบ้านนะ จะเป็นอย่างนั้นน่ะ

หรือคนที่อยู่ด้วยกัน สามีภรรยา หรือผู้ร่วมงาน หรืออะไรอย่างนี้ ถ้าข้างใดข้างหนึ่งยึดถือความคิดเห็นของตนเองรุนแรง มันจะกระทบกระทั่งกันมาก ถ้ารู้ทันจิตใจว่ากำลังยืดถือความเห็นอยู่นะ ความยึดถือตัวนี้คลายออก จะคุยกันสบายๆ คุยกันด้วยเหตุผล ถ้าเราฝึกด้วยการรู้ทันว่าเรากำลังยึดในความเห็นของเราแล้ว รู้ตัวนี้เลย แล้วลูกจะสบาย เราก็จะสบาย

550409.49m49-51m58

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.

File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๔๔ วินาทีที่ ๘ ถึง นาทีที่ ๔๙ วินาทีที่ ๔๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ชอบคิดกังวลจนไม่สบายใจทำให้เป็นทุกข์

ชอบคิดกังวลจนไม่สบายใจทำให้เป็นทุกข์

คนเราแต่ละคนก็มักแพ้ทางกิเลสตัวใดตัวหนึ่งอยู่เรื่อยๆ
กิเลสมันก็เลยอาศัยสภาวะที่ยังรู้เท่าทันไม่ได้ มาฉุด รั้งให้จิตขาดสติหลงลืมตัวไปบ่อยๆครับ
ทีนี่เมื่อเกิดสภาวะแบบนี้อีก ก็ให้หัดดูไปเลยครับว่า เมื่อกี้เผลอไปคิด (ไม่ต้องสนใจเรื่องที่คิด)
ผมคิดว่า ปัญหาตอนนี้คือยังหัดดูสภาวะนี้ไม่พอที่จะรู้ด้วยจิตที่เป็นกลางได้ครับ
ถ้าเกิดสภาวะนี้แล้วรู้สึกไม่ชอบ ดิ้นรนไม่อยากเป็นแบบนี้ ก็ให้หัดดูจิตที่ไม่ชอบ
หัดดูจิตที่ดิ้นรนไปด้วยนะครับ เมื่อหัดดูจนเกิดสติได้เอง
จิตก็จะค่อยรู้เท่าทันและเป็นกลาง ไม่หลงไปคิดฟุ้งซ่านจนจมแช่ทุกข์นี้ได้เองแหละครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทางวิปัสสนา (๒๓) ถ้ามีเหตุขันธ์ก็เกิดสืบทอดไป ถ้าไม่มีเหตุขันธ์ก็ไม่เกิดสืบทอดไป

mp3 for download : ทางวิปัสสนา (๒๓) ถ้ามีเหตุขันธ์ก็เกิดสืบทอดไป ถ้าไม่มีเหตุขันธ์ก็ไม่เกิดสืบทอดไป

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ทางวิปัสสนา

ทางวิปัสสนา

โยม : นมัสการหลวงพ่อครับ ผมส่งการบ้านมาหลายครั้ง ก็ยังตื่นเต้นอยู่เหมือนเดิม ความตื่นเต้นมานี่ มันยังไม่หายเลยครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ห้ามมันไม่ได้หรอก จิตมันเป็นอนัตตา

โยม : ทีนี้ การปฏิบัติที่จะมาส่งก็คือ เวลาผมทำสมาธิ แล้วผมก็สังเกตไปเรื่อยๆ ว่าอะไรปรากฎก็รู้มันๆ ทีนี้สักพักหนึ่ง มันไม่มีอะไรปรากฎ มันเงียบๆ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เงียบปรากฎล่ะ

โยม : ใช่ๆครับ ความเงียบปรากฎ ตรงนี้ ผมเคยถกกับคุณหมอท่านหนึ่ง คุณหมอบอกว่าจิตสงบแล้ว ผมบอกว่า คิดเรื่องเงียบ ผมมีความรู้สึกว่าคิดเรื่องเงียบอยู่

หลวงพ่อปราโมทย์ : เงียบปรากฎนะ

โยม : แล้วความเงียบ ผมก็ดูต่อไป ดูไปแล้วก็ไม่เงียบอีกแล้ว

หลวงพ่อปราโมทย์ : ใช่ มันก็ไม่เที่ยง

โยม : แต่มันก็นานพอสมควร คือ ถ้ามันเป็นอย่างนี้บ่อยๆ เวลาที่มันเงียบ มันจะยิ่งนานขึ้นๆ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ก็ออกจากสมาธิแล้ว อยู่ในโลก ก็เจริญสติในชีวิตประจำวันให้มาก เท่านั้นแหละ

โยม : คราวนี้เวลาออกจากสมาธิน่ะครับ แล้วมีสติอัตโนมัติขึ้นมา เวลาที่สติอัตโนมัติค้างอยู่ มันรู้สึกได้ว่านานกว่าเดิม

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าจิตทำสมาธินะ จิตที่ทรงฌานเนี่ย สติอัตโนมัติจะอยู่นาน

โยม : อย่างนั้นเรียกว่าฌานหรือครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าจิตเข้าไปอยู่ในความนิ่ง ความว่าง ความไม่มีอะไร รู้เนื้อรู้ตัวอยู่ ก็เข้าสมาธิที่ละเอียดเข้าไปแล้วล่ะ

โยม : อีก ๒ ประเด็นนะครับ คือเวลา อย่างเหตุการณ์เมื่อคืนนี้เอง ขณะที่กำลังทำงานอยู่แล้วมันหงุดหงิดขึ้นมา ก็ดูมันไป สังเกตไปเรื่อยๆ ปรากฎว่า ความหงุดหงิดหายไปแล้ว แต่มันยังร้อนอยู่

หลวงพ่อปราโมทย์ : อื้อ.. วิบาก กิเลส กิเลสเกิดนะ จิตก็กระทำกรรม จิตกระทำกรรมก็ต้องมีวิบาก ตรงหงุดหงิดนะก็เป็นกิเลส แล้วผลักดันให้จิตเราดิ้นรน ก็ต้องรับวิบากอีกช่วงแหละ

โยม : สภาพที่แยกธาตุแยกขันธ์อย่างนั้น ใช่มั้ยครับ แต่มัน มันไม่ได้แยกได้ตลอดเวลา

หลวงพ่อปราโมทย์ : ไม่เป็นไร เวลาเราทำความสงบเนี่ย ไม่ต้องแยกธาตุแยกขันธ์ เวลาเผลอ ไม่ได้แยกธาตุแยกขันธ์ เวลาที่จิตตั้งมั่น เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนะ ก็แยกธาตุแยกขันธ์ได้ มันไม่ได้เป็นตลอดนะ

โยม : ในระหว่างที่ผมกำลังสังเกต ความหงุดหงิด ผมรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง รู้สึกว่า มีเรา(หลวงพ่อปราโมทย์ : อื้อ..)กำลังดูมันอยู่(หลวงพ่อปราโมทย์ : อื้อ..)

หลวงพ่อปราโมทย์ : ดีที่เห็นนะ แสดงว่ายังไม่ใช่พระโสดาบัน ถ้าเป็นพระโสดาบันจะเห็นว่า ธรรมชาติรู้เป็นคนดูอยู่ ไม่ใช่เราดูละ

โยม : แต่ว่าเราไม่ได้มีอยู่ตลอดเวลา

หลวงพ่อปาโมทย์ : ไม่อยู่ตลอด

โยม : เวลาผมเผลอ เราหายไป

หลวงพ่อปราโมทย์ : เออ.. สักกายทิฎฐิก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน ความเห็นว่าเป็นเรา เป็นชั่วคราว เกิดเป็นคราวๆ

โยม : ผมขออีกนิดนะครับ คือ เวลาที่เรานอนหลับสนิท แล้วตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกว่าโลกปรากฎ ทีนี้ตอนหลับสนิท สนิทจริงๆครับ ไม่มี ตรงนี้ ตรงกับที่ผมศึกษา คือว่า ตรงนี้ขออนุญาตนิดนึงครับ คือ ผมเคยอ่านเจอในพระอภิธรรมว่า เทวดาถามพระพุทธเจ้าว่า โลกมีอะไรนำไป โลกปรากฎได้อย่างไร ผมเข้าใจความหมายทำนองนี้ ใช่มั้ยครับ ผมเข้าใจถูกแล้ว? อีกอันหนึ่งนะครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : หา ทำไมเยอะนักล่ะ คนอื่นเขาจะประท้วงหรือเปล่า หือ..

โยม : ครับ ต้องขอโทษด้วยครับว่า ผม.. ต้อง.. ให้ความรู้กับเพื่อนที่ปฏิบัติธรรมด้วยกัน ป้องกันไม่ให้เกิดมิจฉาทิฎฐิ คือเมื่อกี๊ผมฟังที่หลวงพ่อพูดตอนเริ่มต้น บอกว่า ถ้าเราไปมั่นใจว่าตายแล้วเกิด เป็นมิจฉาทิฎฐิ ตรงนี้หมายความว่า เราต้องมั่นใจว่า ไม่มีพระอรหันต์ใช่มั้ยครับ ถึงจะเรียกว่าไม่เป็นมิฉาทิฎฐิ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ไม่ใช่ พวกเราตอนนี้ต้องคิดว่ามีพระอรหันต์ไว้ก่อน แต่พระอรหันต์ท่านไม่ได้คิดว่าท่านเป็นพระอรหันต์หรอก ของเรามันยังมี

โยม : อย่างนี้แสดงว่า ที่ผมกำลัง ตอนนี้อย่างที่ผมกำลังพูดกับลูก ผมบอกว่า ผมมั่นใจว่าตายแล้วเกิด อย่างตัวผม ผมมั่นใจว่าตายแล้วเกิด อย่างนี้เป็นมิจฉาทิฎฐิมั้ยครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าพูดกับลูกก็พูดโดยอนุโลมเอา เอาแบบนั้นก่อนนะ คือ มันจะเห็นแจ้งต่อเมื่อเห็นว่า ปัจจุบันนี้ ไม่มี ปัจจุบันนี้ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ ไม่มีเรา ไม่มีเขา ก็ปัจจุบันยังไม่มีเลย ตายแล้วจะมีหรือไม่มีอย่างนี้ ถ้ามีเหตุก็เกิด ถ้าไม่มีเหตุก็ไม่มี ถ้ามีเหตุขันธ์ก็เกิดสืบทอดไป ถ้าไม่มีเหตุขันธ์ก็ไม่เกิดสืบทอดไป ถ้าพูดให้ถูกก็ต้องพูดอย่างนั้น แต่ว่าสอนเด็กไม่ได้ มันยากไป ถ้าสอนลูกก็บอกว่า ตายแล้วเกิด สอนอย่างนี้ไปก่อน

โยม : ขอบคุณมากครับ

550409.44m08-49m47

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.

File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๔๔ วินาทีที่ ๘ ถึง นาทีที่ ๔๙ วินาทีที่ ๔๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ภาวนาแล้วเห็นทุกอย่างเป็นแค่ปัจจัยปรุงแต่งทุกอย่างล้วนไม่มี

ภาวนาแล้วเห็นทุกอย่างเป็นแค่ปัจจัยปรุงแต่งทุกอย่างล้วนไม่มี

ที่ว่าทุกอย่างล้วนไม่มีนั้น ถ้าตีความผิดจะยุ่งเลยนะครับ
เพราะทุกอย่างก็มีอยู่ตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย
เมื่อมีอยู่ตามเหตุปัจจัย มีเหตุปัจจัยก็เกิด หมดเหตุปัจจัยก็ดับ
ไม่เที่ยง ถูกบีบคั้น ไม่ใช่ตัวตนที่จะเป็นไปตามต้องการ
เพราะฉะนั้นให้เพียรรู้สภาวะต่างๆ ที่เกิดดับต่อไปอีกครับ
จนกว่าจิตจะปล่อยวางความยึดถือรูปนามลงได้
แล้วทุกอย่างของโลกจะมีอยู่ตามเหตุปัจจัย
โดยจิตไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นให้เป็นทุกข์อีกครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ดูจิตแล้วเครียด

Mp3 for download :ดูจิตแล้วเครียด

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

จ้องจิตเอาไว้ จิตจะนิ่ง

โยม : มีความรู้สึกว่าเวลาที่รู้ ตามรู้จิต ดูกิเลสเนี่ย มันไม่เบิกบาน มันเครียด มันเหมือนกับว่ามันยังตามไปอยู่กับกิเลสอันนั้นๆ ตามไปอยู่กับความโมโหอันนั้นๆอยู่

หลวงพ่อปราโมทย์: เวลารู้นะ ให้สภาวะเกิดก่อนแล้วค่อยรู้ อย่าไปจงใจที่จะรู้ตลอดเวลา ถ้าเราพยายามจะรู้มากๆ มันจะกลายเป็นการเพ่งๆไว้ ใจจะเครียดๆ ไม่มีความสุขหรอก เผลอไปก่อนแล้วรู้ว่าเผลอ โลภไปก่อนแล้วรู้ว่าโลภ โกรธไปก่อนแล้วรู้โกรธ ฝึกอย่างนี้นะ ฝึกไป

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ
วันศุกร์ ที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒ หลังฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๑
File: 520731B
ระหว่างนาทีที่  ๓๑ วินาทีที่ ๑๔ ถึง นาทีที่ ๓๑วินาทีที่ ๕๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ดูไม่ถึงจิต ดูได้แค่อารมณ์ของจิต

ดูไม่ถึงจิต ดูได้แค่อารมณ์ของจิต

ถาม : มีบางครั้งที่สามารถเห็นได้ว่าคนที่พูดอยู่มันไม่ใช่ตัวเราเป็นอะไรก็ไม่รู้ ผมก็พยายามดูไปเรื่อยๆครับ แต่ผมไปคุยกับท่านนึงท่านได้บอกว่าผมดูไม่ถึงจิตดูได้แค่เพียงอารมณ์ของจิต แบบนี้ผมทำถูกหรือเปล่าครับ

ตอบ : คำว่าดูไม่ถึงจิต หมายถึง จิตขาดความตั้งมั่น
แล้วไปสนใจดูลักษณะเฉพาะตัวของอารมณ์ต่างๆ
เช่นพอเกิดโทสะ แทนที่จิตจะตั้งมั่นเห็นจิตที่มีโทสะเกิดดับ
ก็ไปสนใจดูว่าโทสะหน้าตาเป็นอย่างไร มีอาการอย่างไร
หรือที่เรียกว่าไปดูตัวอารมณ์นั่นเอง
คุณ สังเกตดูนะครับว่า
ที่ดูอยู่ดูจิตเกิดดับได้หรือไม่ หรือว่าไปดูตัวอารมณ์

ส่วนที่เห็นว่าคนที่พูดอยู่ไม่ใช่ตัวเรา ตรงนั้นถูกแล้ว
และที่เห็นแบบนี้ได้ ขณะนั้นจิตจะมีความตั้งมั่นดูกายอยู่ครับ
ให้หัดดูต่อไปนะครับ แต่อย่าจงใจจะดูให้เห็นแบบนี้อีก
ถ้าจะเห็นก็ให้เห็นเอง ถ้าไม่เห็นก็หัดดูกายหัดดูจิตต่อไปเรื่อยๆ ครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ที่ยังแบกขันธ์อยู่เพราะไม่เห็นว่ามันเป็นทุกข์

Mp3 for download: ที่ยังแบกขันธ์อยู่เพราะไม่เห็นว่ามันเป็นทุกข์

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ที่ยังแบกขันธ์อยู่เพราะไม่เห็นว่ามันเป็นทุกข์

ที่ยังแบกขันธ์อยู่เพราะไม่เห็นว่ามันเป็นทุกข์

หลวงพ่อปราโมทย์ : เคยได้ยินคำว่าวิปัสสนามั้ย วิปัสสนา วิปัสสนาก็คือการรู้ทุกข์นั่นแหละ รู้ความจริงของธาตุของขันธ์ ก็คือรู้ทุกข์นั่นแหละ

ถ้าเราทำวิปัสสนานะ เราก็รู้ทุกข์ไป ดูกายดูใจมันทำงานไป เห็นแต่ทุกข์ล้วนๆ เลย เมื่อไหร่เห็นกายเห็นใจเป็นทุกข์ล้วนๆ จิตก็วางของมันเอง ไม่ต้องทำอะไร มันวางของมันเอง ใครมันจะไปแบกไว้ให้โง่นะ แบกทุกข์ไปแบกทำไม

ทุกวันนี้ที่แบกขันธ์อยู่เพราะว่าไม่เห็นว่าขันธ์มันเป็นทุกข์นะ เห็นว่ามันเป็นของดีของวิเศษ เห็นว่าขันธ์มันนำความสุขมาให้เรา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ
วันอาทิตย์ที่ ๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๔ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๘
File: 540102A
ระหว่างนาทีที่  ๑๒วินาทีที่
๓๘ ถึง นาทีที่ ๑๓วินาทีที่ ๒๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ภาวนาพาพ้นทุกข์

ภาวนาพาพ้นทุกข์

คนเราย่อมต้องมีทุกข์มีสุขหมุนเวียนกันไป
แม้วันนี้จะมีสุข แต่มันก็ไม่เที่ยงไม่ถาวร วันหน้าหรืออีกไม่กี่ชั่วขณะก็สามารถพลิกไปทุกข์ได้ทุกเมื่อ
การจะพ้นไปจากทุกข์ได้แม้ร่างกายจะเจ็บป่วยหรือตาย
ก็ต้องมาหัดมีสติ หัดรู้สึกตัว หัดดูกายบ้าง หัดดูจิตบ้าง
เมื่อหัดไปมากเข้า สติปัญญาก็จะเจริญขึ้นจนพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง :D

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทางวิปัสสนา (๒๒) ถลำรู้ก็คือจิตไม่มีสมาธิ / ดูจิต คือการดูความเคลื่อนไหวของจิต

mp3 for download : ทางวิปัสสนา (๒๒) ถลำรู้ก็คือจิตไม่มีสมาธิ / ดูจิต คือการดูความเคลื่อนไหวของจิต

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ทางวิปัสสนา (๑)

ทางวิปัสสนา (๑)

โยม : กราบนมัสการหลวงพ่อครับ ผมเพิ่งส่งการบ้านเป็นครั้งแรกครับ ผมปฏิบัติตามแนวของหลวงพ่อ แต่ว่า บางครั้งรู้สึกเหมือนกับว่า ถลำเข้าไปรู้

หลวงพ่อปราโมทย์ : ดี ถลำรู้ก็คือจิตไม่มีสมาธิ ถ้ามีสมาธิจิตก็ตั้งมั่น ไม่ถลำ ตรงที่ตั้งมั่นน่ะ ต้องซ้อมเอาจนเขาตั้งขึ้นเอง ไม่เจตนาให้ตั้ง ถ้าจงใจให้ตั้งเนี่ย จิตจะแข็งๆ เครียดๆ ไม่ดี

โยม : ผมไม่แน่ใจว่า ตอนนี้ผมรู้ หรือไม่รู้

หลวงพ่อปราโมทย์ : รู้ ขันธ์ค่อยแยก ค่อยๆฝึกแยกขันธ์ไป แต่จิตต้องตั้งมั่น

โยม : ผมอยากทราบว่าจริตของผมนี่ วิหารธรรมที่เหมาะสมนี่ ควรจะ…

หลวงพ่อปราโมทย์ : เป็นคนช่างคิดมั้ยล่ะ ถ้าเป็นคนช่างคิดก็ต้องดูจิตเอา การดูจิตนั้นก็คือการดูความเปลี่ยนแปลงของจิต ไม่ใช่ไปนั่งเฝ้าจิตไม่ให้เปลี่ยนแปลง ให้ดูความเปลี่ยนแปลงของจิตไป เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อะไรอย่างนี้ เห็นอย่างนี้นะ ในที่สุดปัญญาเกิด ทุกอย่างชั่วคราว

ของคุณก็ดีอยู่นะ ดี เอาละไปทำต่อ แต่จิตต้องเข้าบ้านนะ อย่าให้จิตออกนอก

550409.42m50-44m06

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.

File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๔๒ วินาทีที่ ๕๐ ถึง นาทีที่ ๔๔ วินาทีที่ ๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ปัญญาจากการดูขันธ์

ปัญญาจากการดูขันธ์

ปกติเวลาที่มาหัดภาวนา
ก็จะเห็นรูปบ้าง เวทนาบ้าง สัญญาบ้าง สังขารบ้าง วิญญาณบ้าง
ไม่ได้เจาะจงว่าจะเห็นเพียงแค่ขันธ์ใดขันธ์หนึ่ง
เพียงแต่ใครจะเห็นขันธ์ใดได้บ่อยกว่ากัน
แต่เมื่อเกิดปัญญาในขั้นที่ละความเห็นผิดได้ ก็จะเข้าใจแบบรวบยอดไปพร้อมกันในทำนองว่า
ไม่มีตัวตนอยู่ในขันธ์ใดๆ ไม่มีขันธ์ใดเลยที่เป็นตัวตนครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News : ชมภาพหลวงพ่อปราโมทย์เทศน์ที่ วัดมงคลรัตนาราม Tampa Florida

ชมภาพหลวงพ่อปราโมทย์เทศน์ที่ วัดมงคลรัตนาราม Tampa Florida

(ขอขอบคุณ FaceBook ร่วมกันเล่าความดี ร่วมกันอนุโมทนา ด้วยครับ)


เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทางวิปัสสนา (๒๑) การรู้สึกตัวในชีวิตประจำวัน กับการทำรูปแบบ

mp3 for download : ทางวิปัสสนา (๒๑) เมื่อเป็นฆราวาสที่รู้สึกตัวในชีวิตประจำวันเป็นแล้ว สิ่งที่ควรทำเพิ่มเติม

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ทางวิปัสสนา

ทางวิปัสสนา

โยม : กราบนมัสการหลวงพ่อครับ ก็ไม่ได้ส่งการบ้านมาหลายปีแล้วครับ วันนี้ก็มีมาส่งบ้างครับ ที่ปฏิบัติมาตลอดระยะเวลา ๔ ปี ตั้งแต่ได้ฟังซีดีหลวงพ่อ ก็คือ ความโลภโกรธหลง ลดลงไปเยอะครับ จากที่เคยฉุนเฉียวง่าย ขี้โมโห โลภเยอะ ก็ลดลงไปเยอะครับ ทุกวันนี้ สภาวะที่เกิดขึ้น ก็เห็นว่า จิตมันถลำเข้าไปบ่อยๆ แล้วก็เป็นช่วงที่สั้นลง แล้วก็เห็นว่า ที่ถลำไปนั้นไม่ใช่เรา

หลวงพ่อปราโมทย์ : ก็ฝึกให้มากนะ เห็นแล้ว ต้องเพิ่มอันหนึ่งนะ เพิ่มความตั้งมั่นของจิต วันๆเราคลุกอยู่กับโลกเยอะนะ สมาธิจะไม่พอ ใจจะฟุ้งเก่ง เพราะฉะนั้นเราต้องทำในรูปแบบ ถึงเวลา แบ่งเวลาไว้เลย วันหนึ่ง ๑๕ นาที หรือ ๑๐ นาที ก็ยังดี ถ้าทำตอนเย็นแล้วก็ง่วงหลับไปนะ ก็มาทำตอนเช้า ตื่นให้เร็วขึ้นหน่อย มาไหว้พระสวดมนต์ มาหัดพุทโธ มาหัดหายใจ แล้วคอยรู้ทันจิต ทีนี้ถ้าเราฝึกอย่างนี้ทุกวันๆนะ เวลาจิตมันขยับเขยื้อนนิดเดียว เราจะรู้ทันละ มันไม่ไหลไปจมนานๆ หลังจากนั้นเราก็เจริญสติในชีวิตประจำวันนี้แหละ

การเจริญปัญญาไม่ต้องไปเจริญที่วัดนะ เจริญสติเจริญปัญญาเนี่ย เจริญที่ตาที่หูที่จมูกที่ลิ้นที่กายที่ใจของเรานี้ ไม่ใช่ไปทำที่วัดหรอก ตามองเห็นรูป ใจเรายินดียินร้าย ใจเราสุขใจเราทุกข์ ใจเราเป็นกุศล-อกุศล รู้ทัน หูได้ยินเสียงนะ จิตเป็นสุขเป็นทุกข์ เป็นกุศล-อกุศล ยินดียินร้าย รู้ทัน ใจไปคิด เกิดสุขเกิดทุกข์เกิดกุศล-อกุศลยินดียินร้าย รู้ทัน ใช้หลักอันนี้เอง สุดท้ายก็เห็นเลย ทุกอย่างมาแล้วก็ไป เช่น ความสุขมาแล้วก็ไป ความทุกข์มาแล้วก็ไป กุศล-อกุศลมาแล้วก็ไป แต่ต้องซ้อมทุกวันนะ จิตจะได้มีพลัง

โยม : ครับ ขอบคุณครับ

550409.40m44-42m50

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.

File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๔๐ วินาทีที่ ๔๔ ถึง นาทีที่ ๔๒ วินาทีที่ ๕๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : การภาวนาถดถอย

การภาวนาถดถอย

การที่อยู่ๆ การภาวนาก็ถดถอยไปแบบนี้ เป็นเรื่องปกติครับ
พอถดถอยไป ก็อย่าดิ้นรนเพราะอยากทำให้ดีเหมือนก่อนหน้า
แต่ให้กลับมานับหนึ่งใหม่ คือ กลับมาสำรวมกายวาจา
แล้วก็หัดรู้สึกตัวใหม่ไปสบายๆ แล้วจะค่อยๆ เจริญขึ้นใหม่เองครับ
และเมื่อกลับมาเจริญขึ้นได้อีกครั้ง จิตจะพัฒนาไปได้มากขึ้นด้วยครับ
แต่ถ้าเราดิ้นรนอยากทำให้ดี ก็จะมีแต่ถดถอยลงไปครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News : วัดพระธาตุโกฏิแก้ว จ. เชียงราย ขอเรียนเชิญท่านผู้สนใจ มาร่วมสนทนาธรรมกับ คุณ มาลี ปาละวงศ์ ใน วันที่ 1 ก.ค.55

.
ขอเชิญท่านผู้สนใจเข้าร่วม
กิจกรรม สนทนาธรรม โดย คุณมาลี ปาละวงศ์
เป็นการสอนปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2555 เวลา 13.30 น.เป็นต้นไป
เหมาะสำหรับผู้สนใจในการเจริญสติตามแนวทางท่านพระอาจารย์หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เป็นรูปแบบการเสวนาธรรมแบบสบายๆ ไม่มีพิธีรีตอง
เน้นให้เกิดความเข้าใจพื้นฐานที่ถูกต้อง เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ณ พระธาตุโกฏิแก้ว ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย
โทรสอบถามข้อมูลหรือเส้นทางได้ที่
คุณวิว 08-9637-2998
หรือ คุณเหน่ง 08-1961-7138

แผนที่ ที่ตั้งพระธาตุโกฏิแก้ว อ.เมือง จ.เชียงราย >>>


ดู พิกัดที่ตั้งพระธาตุโกฏิแก้ว อ.เมือง จ.เชียงราย ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทางวิปัสสนา (๒๐) ฝึกให้จิตตั้งมั่น(รู้สึกตัว) แล้วแยกธาตุแยกขันธ์ เป็นต้นทางของวิปัสสนา

mp3 for download : ทางวิปัสสนา (๒๐) ฝึกให้จิตตั้งมั่น(รู้สึกตัว) แล้วแยกธาตุแยกขันธ์ เป็นต้นทางของวิปัสสนา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ทางวิปัสสนา

ทางวิปัสสนา

หลวงพ่อปราโมทย์ : เพราะฉะนั้น เมื่อได้ฟังธรรมแล้ว ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม เบื้องต้นรักษาศีล ๕ ถัดจากรักษาศีล ๕ แล้ว ฝึกจิตใจให้อยู่กับเนื้อกับตัว นี่คือการฝึกสมาธิที่ถูกต้อง สมาธิไม่ได้ฝึกให้เคลิ้มๆ ฝึกให้รู้สึกตัว จิตหนีไปคิดรู้ทัน จิตหนีไปคิดรู้ทัน นี่ล่ะจะรู้สึกตัว ถ้าจิตหนีไปคิดจิตจะไม่รู้สึกตัว

พอจิตรู้สึกตัวได้แล้ว ก็มาหัดแยกธาตุแยกขันธ์ ใครเคยได้ยินชื่อหลวงตามหาบัวบ้าง มีมั้ย หลวงตามหาบัวสอนไว้ดีมากเลยนะ บอกว่า ถ้าแยกธาตุแยกขันธ์ไม่เป็นนะ อย่ามาคุยอวดนะเรื่องเจริญปัญญา ไม่มีทางเจริญปัญญาเลย ต้องแยกธาตุแยกขันธ์เป็น เพราะฉะนั้นบางคนบอกว่า พุทโธ พุทโธ ไป แล้ววันหนึ่งจะบรรลุ ไม่บรรลุหรอก คนละเรื่องกันเลย

พุทโธ พุทโธ ไป จิตหนีไปคิดรู้ทัน ได้จิตที่ตั้งมั่น จิตตั้งมั่นแล้วต้องมาแยกธาตุแยกขันธ์ ร่างกายอยู่ส่วนร่างกายจิตเป็นคนดูอยู่ต่างหาก อย่างนี้ ความสุขความทุกข์เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ความสุขความทุกข์เกิดที่ร่างกายก็ได้นะ เกิดที่จิตใจก็ได้ กุศล-อกุศล อันนี้เกิดได้ที่จิตอย่างเดียว ส่วนจิตเป็นตัวรู้อารมณ์ เดี๋ยวก็ไปดู เดี๋ยวก็ไปฟัง เดี๋ยวก็ไปคิด หมุนเวียนไปทั้งวัน

ยกตัวอย่าง นั่งฟังหลวงพ่อพูดอย่างนี้ เดี๋ยวก็ดูหน้าหลวงพ่อ เดี๋ยวก็ตั้งใจฟัง เดี๋ยวก็คิด เนี่ยดูของจริงอย่างนี้ ดูขันธ์นะ ทำงานไปเรื่อย จนปัญญามันพอ เห็นเลยขันธ์นี้ไม่ใช่เรา เป็นพระโสดาบัน เห็นเลยขันธ์นี้ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา หาสาระแก่นสารไม่ได้ หมดความยึดถือในขันธ์ เป็นพระอรหันต์

550409.38m49-40m23

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.

File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๓๘ วินาทีที่ ๔๙ ถึง นาทีที่ ๔๐ วินาทีที่ ๒๓

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ทุกข์มี 3 อย่าง

ทุกข์มี 3 อย่าง

ร่ำเรียนมาได้ความว่า … “ทุกข์” มีสามอย่าง
(ไม่ทราบว่าจะมีมากกว่านี้หรือเ​ปล่า)
.
อย่างแรก “ทุกขเวทนา” ทุกข์ทางกายทางใจ
ทุกขเวทนาทางกาย เช่นกายมีความเจ็บ ปวด เมื่อย
ทุกขเวทนาทางใจ เช่นใจมีความเศร้าโศก เสียใจ ฯลฯ
ทุกขเวทนาแบบนี้แม้คนที่ไม่ภาวน​าก็เห็นได้เหมือนๆกัน
.
อย่างที่สองคือ “ทุกขัง” เป็นทุกข์
เป็นลักษณะของความถูกบีบคั้นให้​ทนอยู่ไม่ได้
ทุกข์แบบนี้จะเห็นได้ต้องหัดเจร​ิญปัญญาเท่านั้น
ถ้าเห็นความเป็นทุกข์นี้ได้ก็จะ​เกิดปัญญา (เห็นไตรลักษณ์)
ปล่อยวางความยึดถือกายได้ ปล่อยวางความยึดถือจิตได้
.
อย่างที่สามคือ “ทุกขสัจ” หรือ “ทุกขอริยสัจ”
คือทุกข์ที่เป็นชาติ ชรา มรณะ
โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ (ทุกขเวทนา) โทมนัส อุปายาส
ความไม่ประจวบกับสิ่งที่รัก ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก
ปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้
สรุปโดยรวมหรือโดยย่อคือ อุปาทานขันธ์
อุปาทานขันธ์นี้ เรียกง่ายๆ ก็คือกายกับจิตนี่เองที่เป็นตัว​ทุกข์
เป็นที่ตั้งของอุปาทาน (เป็นที่ตั้งความยึดมั่นถือมั่น​)
.
ชาวพุทธจะมีเป้าหมายอยู่ที่ ความพ้นทุกข์
ซึ่งจะพ้นทุกข์ได้ ก็ต้องหัดรู้หัดดูทุกข์ให้ถูกให​้เป็นกันก่อน
การหัดรู้หัดดูทุกข์เพื่อให้พ้น​ทุกข์ ก็คือ
ให้หัดรู้หัดดูกาย เวทนา จิต ดูธรรม (ที่เป็นสติปัฏฐานสี่)
ตามที่จะเห็นอะไรได้ชัดในขณะปัจ​จุบัน
การหัดรู้หัดดูกาย เวทนา จิต ธรรม
ไปตามที่จะเห็นได้ชัดในขณะปัจจุ​บันนี่แหละ
คือการ หัดรู้ทุกขอริยสัจ เมื่อรู้จนเกิดปัญญา
เห็นแจ้งความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้
เห็นขันธ์เป็นตัวทุกข์ได้
ก็จะปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น​ในขันธ์ห้าลงได้.

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 2 of 41234