Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

พลัดพรากจากของรัก

mp 3 (for download) : พลัดพรากจากของรัก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : ช่วงชีวิตที่ผ่านมาก็ ได้ธรรมะช่วย เพราะได้พลัดพรากจากของรักครับ (หลวงพ่อปราโมทย์ : อือ..) ก็พยายามปล่อยวางบ้าง แต่มันก็มีอุปทาน บางครั้งก็ยังจับยึดอยู่

หลวงพ่อปราโมทย์ : ธรรมดานะ ใจบางทีมันก็วกกลับเข้าไป ยังอาลัยอาวรณ์อย่างนี้มันก็วกกลับเข้าไป มันก็วกได้

โยม : ทำยังไงถึงจะขาดครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ใช้เวลา เราบังคับจิตไม่ได้หรอก ให้รู้ทันเท่านั้นแหละ ยกตัวอย่างความเศร้าเข้าครอบงำจิตก็ให้รู้ทันไป เราก็จะเห็นเลยว่าจิตเป็นของบังคับไม่ได้ จิตไม่ใช่ตัวเราหรอก สอนมันบ้างก็ได้

โยม : แต่บางครั้งมันรู้สึกว่า มันปล่อยวางแบบไม่มีเลยนะครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เอ้อ..ดีสิ มันเป็นคราวๆไง บางทีมันก็หวล..วกเข้ามานะ ความรู้สึกน่ะ เราก็รู้ทัน อันนี้ใช้เวลา เดี๋ยวก็หาย..


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันศุกร์ที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ หลังฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๖
Track: ๑๕
File: 550817B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๒ วินาทีที่ ๙ ถึง นาทีที่ ๔๒ วินาทีที่ ๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : หนังยางที่มัดปากถุง

หนังยางที่มัดปากถุง

หนังยางที่มัดปากถุง
แม้เราจะไม่รู้ว่าเขามัดไว้อย่างไร
แต่พอเราลงมือแกะไปทีละนิด
มันก็จะค่อยๆ คลายจนหลุดออก…
อวิชชาก็ฉันนั้น
เราไม่รู้หรอกว่ามันมาได้อย่างไ
แต่พอเรามาหัดเจริญสติให้จิตตั้งมั่น
แล้วเจริญปัญญาไปเรื่อยๆ
ในที่สุดอวิชชาก็จะถูกละออกไปได้จนหมดสิ้น

(ข้อคิดสะกิดธรรมจากถุงก๋วยเตี๋ยวเย็นวันนี้) ^_^

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

รถตู้ฟรี เพื่อไปฟังธรรมสวนสันติธรรม เดือน มกราคม ๒๕๕๖

รถตู้ฟรี เพื่อไปฟังธรรม สวนสันติธรรม

รถตู้ฟรี เพื่อไปฟังธรรม สวนสันติธรรม

หลวงพ่อปราโมทย์ แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม

ไม่มีการแสดงธรรมที่สวนสันติธรรม

รถตู้โดยกลุ่มธรรมดา.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางกลุ่มธรรมดา.net

รถตู้โดยกลุ่มธรรมทาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รถตู้โดยลุงเมา (คณะเจ้าภาพหลากหลาย) กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รถตู้โดยชมรมพุทธศาสน์ กฟผ. กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

1. รถตู้โดยกลุ่มธรรมดา.net

มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ (ดูรายการรถตู้ฟรีโดยเจ้าภาพท่านอื่น คลิ้กที่นี่)

วัน เวลา นัดพบ วันที่รับสมัคร
วันอาทิตย์ที่ ๖ ม.ค.๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั้มปตท รังสิต ๒๔ ธ.ค. ๕๕ – ๒ ม.ค. ๕๖
วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ม.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊มปิโตรนาส เจริญนคร ๓๑ ธ.ค. ๕๕ – ๙ ม.ค. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๑๙ ม.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊มเอสโซ่ สถานีอารีย์ ๗ – ๑๖ ม.ค. ๕๖
วันอาทิตย์ที่ ๒๗ ม.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น.
๐๕:๑๐ น.
ปั๊มเอสโซ่ บางแค
ปั้มปตท พระราม 2
๑๔ – ๒๓ ม.ค. ๕๖

แผนที่
(คลิ้กที่ภาพ เพื่อดูแผนที่ขนาดเต็ม)

แผนที่ ปั๊มพ์ ปตท.รังสิต

แผนที่ ปั๊มพ์ ปตท.รังสิต

แผนที่ ปั๊มเอสโซ่บางแค

แผนที่ ปั๊มเอสโซ่บางแค

ปั๊มปตท.พระราม 2

ปั๊มปตท.พระราม 2


โดยมีรายละเอียดและการสำรองที่นั่ง ดัง นี้
1. กรุณาสำรองที่นั่งภายในวันเวลาที่ รับสมัคร โดยส่งชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และจำนวนที่นั่งที่ต้องการจองมาที่

    หมายเลขโทรศัพท์: 08-9694-2994 ติดต่อคุณดีนี่
    หมายเลขโทรศัพท์: 08-9445-6269 ติดต่อ คุณเอ้(หากไม่รับสาย รบกวนโทรเบอร์อื่น หรือ ส่ง sms )
    หมายเลขโทรศัพท์: 08-2955-5650 ติดต่อ คุณทราย

2. ทางกลุ่มฯของดรับบริจาคหรือเรี่ยไร สมทบทุนทุกกรณี หากมีการเรี่ยไรจากผู้ให้บริการ จะไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฯ และทุกท่านมีสิทธิ์ที่จะไม่ต้องสมทบทุนได้ และหากมีกรณีเช่นนี้ขอความกรุณาแจ้งมาทางเมล์ของกลุ่มฯด้วยครับ

3. หากมีปัญหาจากการให้บริการ หรือไม่ได้รับความสะดวกประการใด หรือมีข้อเสนอแนะประการใด กรุณาติดต่อมาที่ van.dhammada.net@gmail.com ได้

4. อนึ่งขอให้ทุกท่านตรงต่อเวลาและใน กรณีที่มีเหตุจำเป็นจะยกเลิกการสำรองที่นั่ง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้ผู้อื่นได้ใช้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยครับ

2. รถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รายการรถตู้ฟรีเพิ่มเติม เพื่อเดินทางไปฟังธรรมที่สวนสันติธรรม (ดูรายการรถตู้ฟรีของ Dhammada.net คลิ้กที่นี่)

วันและเวลาออกเดินทาง จุดนัดพบ การสำรองที่นั่ง คณะเจ้าภาพ
5.30 น. อาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน Mc Donald’s ที่ แมกซ์วาลู ศรีนครินทร์
(เปิด 24 ชม.)
ติดต่อ02-717-5111
ที่คุณกบ หรือ
คุณหนิงเท่านั้น
กลุ่มธรรมทาน
5.00 น. อาทิตย์ที่ 1 ของทุกเดือน ปั๊ม ปตท สนามเป้า ข้าง ททบ. 5
ตรงข้าม รพ.พญาไท 2
ติดต่อ ลุงเมา
084-360-6881,
086-780-4368,
086-556-2623
บ้านขนมนันทวัน จ.เพชรบุรี
5.00 น. อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน บ.สาลี่เอกชัย จ.สุพรรณบุรี
5.00 น. เสาร์หรืออาทิตย์ที่ 3
ของทุกเดือน
บ.ชัยรัชการ จก.
โตโยต้า บางนา-ตราด กม. 16
5.00 น. อาทิตย์ที่ 4 ของทุกเดือน กลุ่มเพื่อน ทพญ. ยาหยี,
ทพญ. จ๊ะจ๋า,
คุณ เจษฎ์จรรย์
5.00 น. อาทิตย์ที่ 5 ของทุกเดือน (ถ้ามี) คุณสุปรียา (น้อง)
5.00 น. อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน (เฉพาะเดือนธันวาคมนี้ (๒๕๕๕) ขอเปลี่ยนแปลงเป็นวันอาทิตย์แรก วันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม แทน) ม.เอเชียอาคเนย์ ติดต่อ คุณนิตยา 02-807-4500 ต่อ 321 หรือ คุณปิยะธิดา 083-609-5752 เวลา 8.30 – 16.30 น. วัน อังคาร – เสาร์ ม.เอเชียอาคเนย์
5.00 น. เสาร์ที่ 2 ของทุกเดือน
(กรุณาสำรองที่นั่ง
ก่อน 12.00 น.ของวันพฤหัสที่ 2 ของเดือน)
หน้าป้อมยาม กฟผ. ถ.จรัญสนิทวงศ์ ติดต่อ คุณใกล้รุ่ง
080-465- 4924
เวลา 9.00-20.00 น.
ทุกวัน หรือ
mdc@egat.co.th
กิจกรรมพัฒนาจิต
อ. บางกรวย จ. นนทบุรี
ชมรมพุทธศาสน์ กฟผ.

เนื่องจากเป็นการเดินทางของหมู่คณะ ขอให้ทุกท่านตรงต่อเวลา และในกรณีที่มีเหตุจำเป็นจะยกเลิกการสำรองที่นั่ง กรุณาแจ้งยกเลิกล่วงหน้าเพื่อให้ผู้อื่นได้มีโอกาสเดินทางแทน
หมายเหตุ
1. จะไม่มีการเดินทางตามตารางข้างต้นหากวันเดินทางที่กำหนดไว้ตรงกับวันที่สวนสันติธรรมปิด
2. รอบรถตู้ข้างต้นของดรับบริจาคหรือเรี่ยไร ทุกกรณี หากญาติธรรมมีความประสงค์จะร่วมบุญ กรุณาติดต่อเจ้าภาพโดยตรง หากมีการเรี่ยไรให้ช่วยค่าใช้จ่ายจากคนขับรถตู้ ขอความกรุณาแจ้งมาทาง santi.vangroup@gmail.com
3. หากมีข้อร้องเรียน คำถาม หรือมีข้อเสนอแนะประการใด กรุณาติดต่อมาที่ santi.vangroup@gmail.com หรือ mdc@egat.co.th (ในกรณีที่เป็นรถตู้ของชมรมพุทธศาสน์ กฟผ.)

ขออนุโมทนาคณะเจ้าภาพและญาติธรรมผู้แสวงหาธรรมะทุกท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News: New Files Uploaded (๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๕)

    New Files Updated วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕

  • 551216: ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน) ครั้งที่ ๕๕ แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

วิธีสอนคนใกล้ตัว

mp 3 (for download) : วิธีสอนคนใกล้ตัว

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : มีนะ ผู้หญิงบางคนมาหัดภาวนา แล้วมาฟ้องหลวงพ่อว่า สามีชอบมายุ่งเกี่ยว อยากไม่มีเพศสัมพันธ์อะไรอย่างนี้ สามีใจบาปหยาบช้าอะไรอย่างนี้ หลวงพ่อก็บอกว่า เอ๊.. มีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่ของเราไปสินะ ไม่ใช่ว่าภาวนาไปแล้วตัวเองจะเคร่งครัดแล้วไปก่อกวนคนอื่นเขาอะไรอย่างนี้ ทางที่ดีก็คือ ค่อยๆหลอกให้สามีภาวนา เปิดซีดีหลวงพ่อเวลาที่เขาอารมณ์ดีๆ

โยม : หนูก็เปิดที่บ้านน่ะคะ หนูก็เปิดอยู่ก็ฟัง

หลวงพ่อปราโมทย์ : อย่าเปิดทั้งวันนะ เดี๋ยวเขาโมโห

โยม : ค่ะ หนูก็เปิดอยู่น่ะค่ะ อยากจะให้เขามาเป็นเพื่อน

หลวงพ่อปราโมทย์ : เราอย่าไปชวนเขานะ เราก็เปิดไป เราก็ภาวนาของเราไป ให้เขาได้ยินบ้าง เวลาที่เขารำคาญก็เปิดเพลงให้ฟังไป ค่อยๆซึมซับไป

โยม : ก็ลูกด้วย ความจริงก็อยากจะให้ลูก..

หลวงพ่อปราโมทย์ :
บางคนสอนยาก คนใกล้ตัวเป็นคนที่สอนยาก ต้องสอนด้วยการทำให้ดู เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เขาเห็นให้ดู วันหนึ่งเขาจะรู้เลยว่าเราไม่เหมือนเดิมแล้ว แล้วเขาจะอยากปฏิบัติบ้าง


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒ หลังฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๑
Track: ๒
File: 520704B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๙ วินาทีที่ ๕๔ ถึง นาทีที่ ๕๐ วินาทีที่ ๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : หลวงปู่มั่นพูดถึงพระอรหันต์

หลวงปู่มั่นพูดถึงพระอรหันต์

ศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่นรูปหนึ่ง ท่านเล่าให้ผมฟังว่า
ท่านพระอาจารย์มั่นท่านเคยปรารภธรรมให้ลูกศิษย์(พระ) ฟังว่า
ในประเทศไทยนี้ ยุคก่อนท่านมีพระอรหันต์เพียง 7 องค์
2 องค์แรกคือพระโสณเถร และพระอุตตรเถร
ผู้มาประกาศพระศาสนาในสุวรรณภูมิ
อีก 5 องค์เป็นพระพื้นเมือง ส่วนมากจะอยู่แถบล้านนา
(จะเห็นว่า ล้านนาเจริญในธรรมสูงมาก
ปราชญ์ทางพระศาสนาสมัยก่อนเป็นพระล้านนาแทบทั้งนั้น)

ต่อมาถึงยุคสมัยของท่านพระอาจารย์มั่น
ท่านกล่าวว่ามีพระอรหันต์ 5 องค์
(ขอย้ำว่าท่านพยากรณ์กับพระนะครับ ไม่เป็นอาบัติ)
คือสมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส องค์นี้เป็นพระชีวิตสมสีสี (สำเร็จอรหันต์ในขณะที่กำลังจะตาย-ผู้เรียบเรียง)
หลวงปู่บุญ ปัญญาวุฑโฒ วัดบุญญานุสรณ์ อุดร เป็นศิษย์เจ้าคุณอุบาลี
ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส
ท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล
ส่วนองค์ที่ 5 ท่านพระอาจารย์มั่นไม่พยากรณ์ว่าคือองค์ใด
แต่ศิษย์ก็เชื่อกันว่าคือท่านพระอาจารย์มั่นเอง

สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส

เมื่อสิ้นท่านพระอาจารย์มั่นแล้ว
ในงานถวายเพลิงศพท่านพระอาจารย์มั่น
ศิษย์ของท่านที่จบพรหมจรรย์แล้วในขณะนั้น มาร่วมงาน 37 รูป
พระอนาคามีนับร้อย ส่วนพระโสดาบัน สกิทาคามี
นับไม่ถูกเพราะมีทั้งพระทั้งฆราวาส

อันนี้เล่าให้ฟังไว้เล่นๆ เป็นข้อมูลเฉยๆ ครับ
ไม่มีใครยืนยันได้หรอกว่า จริงหรือไม่จริง
เพราะคนที่จะยอมรับก็ไม่มีหลักฐาน
ส่วนคนที่จะปฏิเสธ ก็ไม่ได้มีภูมิรู้ที่จะปฏิเสธได้ด้วยตนเอง

โดย คุณสันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2542

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ถ้าเข้าใจหลักการปฏิบัติ จะไม่ปฏิเสธเส้นทางอื่นที่แตกต่างกัน

mp 3 (for download) : ถ้าเข้าใจหลักการปฏิบัติ จะไม่ปฏิเสธเส้นทางอื่นที่แตกต่างกัน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : ครูบาอาจารย์เคยสอนหลวงพ่อนะ อาจารย์มหาบัว สอนมาดีมากเลย ประทับใจมากเลย การปฏิบัติไม่มีอะไรมากหรอกนะ การปฏิบัติไม่มีอะไรมากหรอก ให้มีสติ รู้ลงที่กายที่ใจอย่างเป็นปัจจุบัน ท่านสอนอย่างนี้ โอ้..คำสอนของท่านนะ ครอบคลุมการปฏบัติไว้ทั้งหมดเลย

เวลาเรารู้ลงที่กายที่ใจนะ ถ้าจิตฟุ้งซ่านเราก็รู้ กับให้จิตลงไปแนบที่กายที่ใจเป็นการเพ่งกายเพ่งใจ เป็นสมถะ เพ่งกายก็เรียกว่ารูปฌานนะ เพ่งใจเรียกว่าอรูปฌาน เพ่งรูปเพ่งอรูปเป็น “สมถะ” ถ้าใจเรามีเรี่ยวมีแรงแล้ว เราดูกายมันทำงาน ดูใจมันทำงาน เห็นแต่ความเป็นไตรลักษณ์ของกายของใจ อันนี้เรียกว่า “วิปัสสนา” นะ เพราะฉะนั้นการภาวนานะ ให้วนเวียนอยู่ในกายในใจนี้ละ

เมื่อวานก็มีคนมาบอก ชอบเล่นกสิณไฟ เราดูๆแล้ว คนนี้ดูจิตไม่ได้หรอก คนนี้ชอบเล่นกสิณนะ กสิณไฟของเขา เขาดูออกข้างนอก แล้วเปลี่ยนใหม่ เอาไฟเข้ามาเผาตัวเองแทน คิดว่าตัวเองนี้เป็นเชื้อเพลิง เผา ใช้กสิณเผาร่างกายนี้ เผาไปเรื่อยให้มันติดไฟขึ้นมา เอาให้ไหม้ไปให้หมดเลย พอไฟไหม้หมดแล้วนะ จะเหลือตัวรู้ขึ้นมา แล้วก็มารู้ตัวรู้ต่ออีกนะ ก็เดินได้เหมือนกัน

เนี่ยถ้าเข้าใจหลักของการปฏิบัตินะ มันจะไม่ปฏิเสธเส้นทางเดินซึ่งแตกต่างกัน คนที่เข้าใจหลักการปฏิบัติแล้วไม่ปฏิเสธ คนอื่นเขาก็เดินได้ด้วยเส้นทางของเขา แต่ละคนเดินไม่เหมือนกัน คนที่ขึ้นภูเขานะ ถ้าขึ้นถึงยอดเขาแล้วจะรู้เลยว่า เส้นทางขึ้นภูเขามีเยอะแยะเลย ไม่ใช่มีทางเดียวที่เราเดิน แต่ถ้ายังจะบอกว่ามีแต่เส้นทางของฉันเนี่ย เข้าใจผิดแล้ว แสดงว่ายังขึ้นไม่ถึงยอดเขาจริงหรอก อาจจะยังลงเหวไปอีกนะ เพราะคิดว่าเนี่ยทางหลุดพ้นอยู่ในเหวนี้ มุดลงไปในเหวอีก แต่ถ้าเข้าใจหลักของการปฏิบัตินะ มีสติวนเวียนอยู่ในกายในใจนี้ อย่าทิ้งมัน กายก็สอนธรรมะเราคือสอนไตรลักษณ์ จิตก็สอนธรรมะคือสอนไตรลักษณ์


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๑
Track: ๘
File: 520726
ระหว่างนาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๔๔ ถึง นาทีที่ ๑๓ วินาทีที่ ๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : จิตเดินปัญญาหรือคิดเอาเอง

จิตเดินปัญญาหรือคิดเอาเอง

ถาม : จะทราบได้อย่างไรคะว่าจิตเกิดปัญญาหรือคิดเอง เพราะบางครั้งสติเกิด และกำลังพิจารณาสิ่งที่เข้ามากระทบจิต แต่มันก็พยายามไปจับกับปฏิจสมุปบาท เลยไม่แน่ใจว่ามันคิดเองหรือเปล่าคะ ?

ตอบ : เดินปัญญาคือการที่จิตเห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ซึ่งถ้าขณะที่พยายามนึกคิดไปจับกับปฏิจจสมุปบาท ขณะนั้นจะไม่ใช่การเดินปัญญา เพราะยังเป็นคิดนึกอยู่ครับ ซึ่งถ้าคิดโดยไม่ตั้งใจคิด ก็ให้มาหัดดูจิตที่ไหลไปคิด เมื่อรู้ทันจิตที่ไหลไปคิดได้ถูกต้อง จิตจะกลับมาตั้งมั่นและจะเดินปัญญาต่อได้ครับ

ถาม : ถ้าคิดโดยไม่ตั้งใจคิด ให้หันมาดูจิตที่ไหลไปคิด แต่ถ้าจิตตั้งใจไปคิด เราควรรู้แล้วหยุดคิด หรือถ้าเราอยากคิดต่อ สามารถคิดต่อได้หรือไม่คะ หรือควรแค่รู้แล้วหยุดคิดคะ ?

ตอบ : ถ้าจะภาวนา แค่รู้ว่าคิดพอแล้วครับ เมื่อแค่รู้ว่าคิดแล้วความคิดจะหยุดหรือไม่หยุดก็ให้เป็นไปตามที่จะเป็น ไม่ใช่ไปจงใจจะทำให้หยุดคิดนะครับ แล้วก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องจงใจคิดต่อครับ (เว้นแต่ว่าเวลานั้นเป็นเวลาทำงานที่ต้องใช้ความคิด ก็ต้องจงใจคิดต่อ แต่ถ้าเป็นเวลาภาวนาก็ไม่ต้องจงใจคิดต่อนะครับ)

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ยิ่งดิ้นรนหาทางแก้ ยิ่งติดนาน

mp 3 (for download) : ยิ่งดิ้นรนหาทางแก้ ยิ่งติดนาน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : อาทิตย์ที่แล้ว ไปอยู่วัดมาฮะ แล้วเหมือนจะติดเพ่งกลับมา จะให้หลวงพ่อตรวจสภาวะฮะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ไม่ ไม่มีปัญหา มันไม่มีปัญหา ถ้าเราเพ่งแล้วติดเพ่ง แล้วรู้ว่าติดเพ่งอยู่ ก็ใช้ได้แล้ว อย่างนี้ไม่ติดนาน เดี๋ยวก็ค่อยๆคลายออกนะ (โยม : ฮะ) ที่จะติดน่ะ หมายถึงว่าไปติดแล้วไม่รู้ว่าติด อย่างนั้นน่ะถึงมีปัญหา

โยม : ก็ผมไม่รู้ว่าสภาพมันติดอะไรฮะ (หลวงพ่อ : ไม่เป็นไร) ก็รู้สึกเหมือนๆจะติดน่ะฮะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เออ..รู้แค่นั้นพอแล้ว นะ ไม่ต้องอยากหายนะ สภาวะที่ปรากฎขึ้น ที่รู้สึกติดๆอยู่เนี่ย ก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน (โยม : ครับผม) ถึงจุดหนึ่งก็คลายเหมือนสภาวะอย่างอื่นนั่นเอง มันเท่าเทียมกันทุกๆสภาวะแหละ เพราะฉะนั้นอย่าตกใจ

โยม : ผมไม่เคยขอการบ้านหลวงพ่อเลยครับ เดี๋ยววันนี้จะขอการบ้านหลวงพ่อ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ขอคุณนะ ทำความสงบไป แล้วเห็นร่างกายเคลื่อนไหว เห็นจิตใจเคลื่อนไหวไว้ ที่จริงแล้วกรรมฐานที่เหมาะกับคุณคือการดูจิตนะ (โยม : ครับ) การดูจิตที่ดีเนี่ยเราทำสมาธิไม่มาก ถ้าทำสมาธิให้มากแล้วจิตจะนิ่งเกินไป (โยม : ครับ) เราทำให้จิตใจพอมีความแช่มชื่น มีความสุขนิดหน่อยนะ แล้วเราตามดูจิตเขาทำงานไปเรื่อยๆ อย่างตอนนี้จิตไปคิดแล้ว ทราบมั้ย? (โยม : ฮะ) มันไหลวูบไปเลย เราก็เห็นจิตมันไหลไป นะ เนี่ยคอยรู้..

โยม : พักหนึ่งเหมือนกับมันนิ่ง.. ผิดปกติฮะ (หลวงพ่อ : อะไรนะ อะไรนะ) มันนิ่งผิดปกติฮะ พักนี้ฮะ

หลวงพ่อปราโมทย์ :
ก็เพราะมันติดเพ่งไง ถ้านิ่งผิดปกติ (โยม : ครับ) รู้ว่าติดเพ่งก็ไม่มีปัญหาแล้ว ติดไม่นานเดี๋ยวก็หาย พวกที่ไม่รู้ว่าติดอยู่เนี่ย มีปัญหา พวกที่ติดอยู่ไม่รู้ แต่ว่าดิ้นรน ไม่ยอมรู้เฉยๆ ดิ้นรนหาทางแก้ อันนี้ก็มีปัญหา เพราะฉะนั้นคุณอย่าดิ้นรนหาทางแก้นะ (โยม : ครับ) ยิ่งดิ้นรนหาทางแก้ยิ่งติดนาน (โยม : ครับผม) รู้เฉยๆไม่ติดหรอก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
เมื่อ วันเสาร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒ หลังฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๑
Track: ๑๒
File: 520808B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๖ ถึง นาทีที่ ๒๗ วินาทีที่ ๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : ต้องมีความรู้เท่าใดจึงจะเห็นความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนา

ต้องมีความรู้เท่าใดจึงจะเห็นความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนา

แม้ความรู้ในเรื่องการปฏิบัติจะซับซ้อนมากมาย
แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์เท่าไหร่หรอกครับ
จับหลัก “กิจของอริยสัจจ์” เอาไว้ให้แม่นๆ
ที่ว่า “ทุกข์ให้รู้ สมุทัยให้ละ นิโรธทำให้แจ้ง มรรคทำให้เจริญ”
หรือย่อลงไปจะเอาแค่ “รู้ทุกข์ แล้วละสมุทัยหรือความทะยานอยากของจิต”
เพียงเท่านี้ก็จะเห็นความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนาแล้วครับ

โดย คุณสันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

 เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2542

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

รู้ว่าจิตคิด จิตจะตื่น จะได้ต้นทางของการปฏิบัติ

Mp3 for download: รู้ว่าจิตคิด จิตจะตื่น จะได้ต้นทางของการปฏิบัติ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : คอยรู้ทันจิตที่ไหลไปคิดไว้ จิตไหลไปคิดแล้วรู้ จิตไหลไปคิดแล้วรู้ มันจะเกิดจิตที่รู้ขึ้นมา เพราะจิตที่หลงไปคิดนั้นคือจิตที่ฟุ้งซ่าน ทันทีที่รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน จิตจะสงบโดยอัตโนมัติ จิตจะตั้งมั่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ไม่ฟุ้งซ่าน จิตอยู่ในอารมณ์อันเดียวนั้นแหละ เฉพาะหน้านะ เห็นความฟุ้งซ่านไหลมา ขาดปั๊บไป จิตก็ตั้งมั่นเด่นดวงขึ้นมา อยู่คนเดียว จิตจะตั้งทีละขณะๆนะ

เพราะฉะนั้นเราหัดไปนะ วันนี้ลองไปดูก็ได้นะจิตแพทย์ จิตไหลไปแล้วรู้ จิตไหลไปแล้วรู้ คอยดูเรื่อยๆ บางทีจิตก็ไหลไปดู บางทีจิตก็ไหลไปฟัง บางทีจิตก็ไหลไปคิด ส่วนใหญ่ไหลไปคิด เพราะฉะนั้นเราคอยรู้ทัน ถ้ารู้ทันจิตไหลไปคิดนะ จิตจะตื่นขึ้นมา ตรงทีจิตตื่นขึ้นมานี่แหละ เป็นต้นทางของการที่จะเดินปัญญาล่ะ หลวงพ่อเทียนถึงบอกว่า ตรงที่รู้ว่าจิตคิดนั้นจะได้ต้นทางของการปฏิบัติ

เพราะฉะนั้นเราคอยรู้ทันจิตที่ไหลไปคิด เราจะได้สมาธิชนิดที่สอง ที่เรียกว่า ลักขณูปนิชฌาน จิตจะตั้งมั่น จิตที่ตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดูนี้แหละ จะสามารถเห็นลักษณะ คือไตรลักษณ์ ของรูปธรรม นามธรรม ทั้งปวงได้ ถ้าจิตไม่ตั้งมั่นล่ะก็ ไม่เห็นลักษณะ คือความเป็นไตรลักษณ์ของรูปนาม ถึงได้ชื่อว่า ลักขณูปนิชฌาน เห็นลักษณะ นะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
เมื่อ วันเสาร์ที่ ๑๑ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๘
File: 531211
ระหว่างนาทีที่ ๒๙วินาทีที่
๕๕ ถึงวินาทีที่ ๓๑ วินาทีที่ ๑๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ดีหรือเลว อยู่ที่ รู้หรือไม่รู้

mp 3 (for download) : ดีหรือเลว อยู่ที่ รู้หรือไม่รู้

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : เมื่อเราไปปฏิบัติที่ไหนแล้วเรารู้สึกว่า เรามีแต่อกุศลเกิด แล้วความลังเลสงสัยเกิด เราน่าจะตัดสินตรงนั้นได้มั้ยคะว่า ตรงนั้นที่..ไมใช่แล้วสำหรับเรา

หลวงพ่อปราโมทย์ : เราดูตรงนี้นะว่า กิเลสเกิดแล้วเรารู้ทันนะ ตรงนั้นดี อยู่ที่เรารู้ทันต่างหากล่ะ (โยม : อ๋อ..ค่ะ) ไม่ใช่ว่ามีกิเลสแล้วไม่ดีนะ พระพุทธเจ้าท่านแยกดีแยกเลวอยู่ที่ รู้หรือไม่รู้

ท่านบอกว่า จิตคนนะ คนมันมี ๔ พวก พวกหนึ่งจิตเป็นกุศล รู้ว่าเป็นกุศล นี้ดีเลิศ, พวกหนึ่งเป็นกุศลไม่รู้ว่าเป็นกุศล ใช้ไม่ได้, พวกหนึ่งมีอกุศล รู้ว่ามีอกุศล ยกตัวอย่างคุณไปภาวนาแล้วอกุศลเกิด คุณรู้เนี่ย ท่านบอกว่าดีนะ, แต่ถ้าอกุศลเกิดแล้วไม่รู้ว่าอกุศลเกิด แบบคนในโลกนี้ อกุศลทั้งวันแหละ แล้วคิดว่าไม่มีอกุศลนี่แหละ พวกนี้ใช้ไม่ได้เลย ไม่ดี

เวลาที่หลวงพ่อภาวนาดีที่สุดนะ สมัยโน้นเป็นฆราวาส เกือบสามสิบปีมาแล้ว ภาวนาเนี่ย ในบรรยากาศที่แย่มากๆเลย ทำงานที่เครียดมากๆเลย เจ้านายก็เครียด ใครๆก็เครียดไปหมดเลย ในเวลานั้นน่ะ จิตมีแต่อกุศลเกิดบ่อยๆ เรามีสติตามรู้ได้บ่อยๆ ช่วงนั้นเป็นเวลาที่กระปรี้กระเปร่าในการปฏิบัติที่สุดเลย แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็เลี่ยงซะ แต่ถ้ายังเห็นกิเลสเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปได้นะ เราก็ภาวนาอยู่ตรงนั้นแหละ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๑
Track: ๘
File: 520710.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๙ วินาทีที่ ๓๐ ถึง นาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : ปฎิบัติธรรมเพื่อละอะไร?

ปฎิบัติธรรมเพื่อละอะไร?

การที่เรารู้ทันกิเลสที่กำลังปรากฏแล้ว กิเลสอ่อนกำลังลงหรือหายไปนั้น
ไม่ใช่เพราะเราไปไล่กิเลสไปหรอกครับ
อย่างมีใครสักคนมาด่าคุณ คุณฟังแล้วโกรธ
พอโกรธแล้วก็จะยิ่งเพิ่มความสนใจคนที่มาด่าคุณมากขึ้น
ยิ่งสนใจก็ยิ่งคิดยิ่งแค้น ความโกรธก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
แต่เมื่อใดคุณย้อนกลับมาเห็นความโกรธที่กำลังเกิดขึ้น
แล้วเห็นว่ามันทำให้จิตใจของคุณเป็นทุกข์
จิตใจของคุณก็จะไม่คล้อยตามสิ่งที่กิเลสสอนให้ทำ
เช่นไม่ตัดสินใจโดดชกคนที่มาด่าเรา
และในขณะที่รู้ทันกิเลสอยู่นั้น ความสนใจของเราไม่ได้อยู่ที่คนที่มาด่าเรา
ไม่ได้คิดปรุงแต่งเพิ่มเติมว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้
กิเลสก็เหมือนไฟที่ขาดเชื้อ มันก็อ่อนกำลังแล้วดับไปเอง

เราปฏิบัติธรรมไม่ใช่เพื่อละกิเลส
แต่เพื่อละความเห็นผิดของจิตใจที่ไปหลงเชื่อวิ่งตามกิเลส
แล้วพาทุกข์มาให้ตัวเอง
แต่เราก็จำเป็นต้องรู้กิเลส เพราะถ้ารู้ไม่ทัน กิเลสมันจะทำพิษเอา
คือถ้ามันครอบงำจิตใจได้ มันจะพาคิดผิด พูดผิด ทำผิด
แล้วจะนำความทุกข์ความเดือดร้อนมาให้

การที่เรารู้กิเลสนั้น เราไม่ได้รู้เพื่อจะละมัน
เพราะตราบใดยังมีเชื้อของกิเลสหลบซ่อนอยูในจิตใจส่วนลึกแล้ว
หากมันมีผัสสะทางตา หู .. ใจ
กิเลสที่ซ่อนนอนก้นอยู่ในจิตใจก็จะผุดขึ้นมา
เพื่อกระตุ้น เร่งเร้า ให้เราหลง ให้เรารัก ให้เราชัง สิ่งต่างๆ
จิตใจก็เสียความเป็นกลางไป

และเราไม่ต้องไปคิดเรื่องตัวผู้รู้อะไรหรอกครับ
ถ้ากิเลสเกิดแล้วรู้ว่ามีกิเลส
และรู้ทันจิตใจตนเองว่า มันยินดี ยินร้ายตามกิเลสหรือไม่
มันหลง มันเผลอ มันอยาก มันยึด หรือไม่
รู้เรื่อยๆ ไป ถึงจุดหนึ่งจิตมันจะเข้าใจเองว่า
“ถ้าจิตหลงตามแรงกระตุ้นของกิเลส
แล้วเกิดความอยาก ความยึดขึ้นมาเมื่อใด ความทุกข์ก็เกิดขึ้นเมื่อนั้น”
จิตก็จะมีฉลาดพอ ที่จะไม่หลงกลกิเลสที่มันรู้ทันแล้วอีกต่อไป

โดย คุณสันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

  7 ก.ค. 2542

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทางลัดในการทำสมถะ

mp 3 (for download) : ทางลัดในการทำสมถะ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : หลวงปู่เทสก์ท่านสอนอันหนึ่ง บอกว่า เวลาที่ฟุ้งซ่านมากๆนะ ทำสมถะแบบเคล็ดลับเลย แบบทางลัดลัดๆน่ะ กลั้นลมหายใจ กลั้นไว้แป๊บนึง ตรงที่กั้นลมหายใจน่ะ คุณรู้สึกมั้ยมันมีความนิ่งๆอยู่ (โยม : รู้สึกครับ) เออ.. เอาจิตไปอยู่กับความนิ่งๆนั่นแป๊บนึงนะ ก็ได้พักละ (โยม : ครับ) แล้วก็ถอยมาเดินปัญญาต่อ (โยม : ครับ)

จิตก็ต้องมีที่พักบ้าง เดินปัญญารวดไป จิตก็ไม่มีแรง


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันศุกร์ที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ หลังฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๖
Track: ๑๕
File: 550817B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๑ วินาทีที่ ๔๐ ถึง นาทีที่ ๔๒ วินาทีที่ ๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News: New Files Uploaded (๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๕)

    New Files Updated วันเสาร์ที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕

  • 550909B: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๗ แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๙ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๕
  • 550909A: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๗ แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๙ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๕
  • 550908B: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๗ แสดงธรรมเมื่อวันเสาร์ที่ ๘ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๕
  • 550908A: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๗ แสดงธรรมเมื่อวันเสาร์ที่ ๘ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : อาโลโกอุทปาทิ

อาโลโกอุทปาทิ

ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ตอนที่ท่านพระอัญญาโกณฑัญญะรู้ธรรมนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงสภาวธรรมที่เกิดขึ้นอยู่ชุดหนึ่งว่า
“ดวงตาเกิดขึ้นแล้ว  ญาณเกิดขึ้นแล้ว ปัญญาเกิดขึ้นแล้ว วิชชาเกิดขึ้นแล้ว
และ “แสงสว่าง”  (อาโลโก) เกิดขึ้นแล้ว”

อาโลโก ตัวนี้ เป็นคนละเรื่องกับอาโลกกสิณ
ในขณะที่จิตผ่านมรรค  มรรคจะแหวกขันธ์ที่ห่อหุ้มจิตแท้ธรรมแท้ออกไป
ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ล้วนๆ เป็นวิสังขารธรรม
ไม่มีเยื่อหรือใยอะไรสักนิดเดียวที่จะกล่าวได้ว่า  เป็นลักษณะของรูปหรือนาม
ก็จะปรากฏออกมา  เป็นความบริสุทธิ์ล้วนๆ
(อย่าเข้าใจว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งตรงข้ามกับขันธ์นะครับ
สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นคู่ หรือเป็นสิ่งเดี่ยวๆ แต่เป็นความบริสุทธิ์ที่พ้นจากขันธ์ 5)
เมื่อจิตเข้าถึงความบริสุทธิ์ล้วนๆ แล้ว 2 – 3 ขณะ
จะเกิดแสงสว่างผุดขึ้นจากความไม่มีอะไรเลย แล้วจิตจะตกภวังค์นิดหนึ่ง
พอถอยขึ้นมาก็จะเกิดอาการจิตยิ้มดังที่กล่าวไปแล้ว

โดย คุณสันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2542

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การรู้จักแยกแยะผู้คน

mp 3 (for download) : การรู้จักแยกแยะผู้คน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : หรือการวางตัวการปฏิบัติต่อผู้อื่น สมมุติว่าเรามีลูกน้อง ลูกน้องทำดีกับลูกน้องทำชั่ว ลูกน้องขยันกับลูกน้องขี้เกียจ แล้วบอกว่าทางสายกลางคือ ทุกปีให้คนละ ๑ ขั้น อันนั้นไม่ใช่ทางสายกลางแล้ว อันนั้นบริหารไม่เป็นแล้ว

พระพุทธเจ้าสอนให้ชมคนที่ควรชม ให้ข่มคนที่ควรข่ม ท่านไม่ได้บอกให้เป็นกลาง ยกตัวอย่าง ใจของท่านนะเป็นกลาง ท่านบอกว่าใจของท่านนะ รู้สึกต่อเทวฑัตเนี่ยเท่าเทียมกับพระราหุล แต่ท่านปฏิบัติต่อพระเทวฑัตกับพระราหุลนั้นแตกต่างกัน

เพราะฉะนั้นต้องแยกให้ออกนะ บางคนใช้คำว่าทางสายกลางมั่วซั่วไปหมดเลย ลูกน้องดี แต่ว่าถือทางสายกลางอุเบกขา ลูกน้องก็หมดกำลังใจ ใช่มั้ย ลูกน้องชั่วไม่ดุไม่ว่า ลูกน้องก็ยิ่งเหิมเกริม อย่างนี้ไม่ถูก

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้แยกแยะนะ ให้ชมคนที่ควรชม ให้ข่มคนที่ควรข่ม ใจของเราเสมอ ภาวนาไปแล้วใจของเราเสมอภาคนะ ระหว่างคนแต่ละคน แต่เราปฏิบัติต่อคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๖
Track: ๑๐
File: 550804A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๓ วินาทีที่ ๑๕ ถึง นาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๓๒

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : จิตหลงไปคิด

จิตหลงไปคิด

หลงไปคิด ก็คือจิตทิ้งการสิ่งที่ใช้เป็นเครื่องระลึกรู้ แล้วไปอยู่กับความนึกคิด

ซึ่งจะเป็นคำพูดในใจ ภาพในใจ หรือเรื่องราวต่างๆ ในใจก็ได้

เช่นขณะกำลังเดินจงกรมที่มีร่างกายเดินเป็นเครื่องระลึกรู้

แล้วถ้าจิตไม่ได้รู้สึกอยู่ว่ามีร่างกายกำลังเดิน

แต่จิตไปสนใจรู้คำพูดในใจ ภาพในใจ หรือเรื่องราวในใจ

ก็เรียกว่า จิตหลงไปคิดครับ

 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

อยากรู้ว่าตายแล้วไปไหน จะรู้ได้อย่างไร

mp 3 (for download) : อยากรู้ว่าตายแล้วไปไหน จะรู้ได้อย่างไร

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : หนูอยากทราบว่า ตายแล้วไปไหนคะ?

หลวงพ่อปราโมทย์ : โอ้.. ตอนนี้ เย็นนี้จะไปไหนยังนึกไม่ออกเลย อยากรู้จริงหรือเปล่า? อยากรู้จริงๆนะ อยากรู้จริงๆต้องเล่นเกมส์ๆหนึ่งนะ กลับบ้านไป หากระดาษมาแผ่นหนึ่งมาตีเป็นช่องๆนะ แล้วก็ใส่ไปเลย โลภ โกรธ หลง อะไรอย่างนี้ ใส่เข้าไปนะ แล้วเราก็คอยสังเกตใจของเรา สัก ๕ นาที ถ้าใจเราโลภ ๑ ครั้ง อยากโน่นอยากนี่ขึ้นครั้งหนึ่งนะ ก็ไปขีดช่องโลภ ถ้าใจเราอยู่ๆก็โกรธอย่างนี้ขึ้นมานะ ไปขีดช่องโกรธ ใจเราเดี๋ยวใจลอยฟุ้งซ่านไปใจลอยลืมตัวเองไป ไปขีดช่องหลงนะ เนี่ยไปขีดเป็นช่องๆอย่างนี้นะ ใช้เวลาสักเท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่เรา บางที ๑๐ นาที ๑๕ นาที

ทดลองนะ แล้วดูคะแนน ถ้าโลภมากตายแล้วไปเป็นเปรต ถ้าโกรธมากตายแล้วตกนรก ถ้าหลงมาก ใจลอยฟุ้งซ่านมาก ตายแล้วไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน เพราะฉะนั้นไม่ต้องถามหลวงพ่อเลยนะ เราจะวัดตัวเราเอง เพราะอะไร เพราะว่าเวลาเราจะตายเนี่ย จิตจะไหลไปตามความเคยชิน ความเคยชินแต่ละชนิดเนี่ย ถ้ามันเคยชินจะโลภ จะไปเป็นเปรตนะ ถ้าเคยชินที่จะโกรธ หงุดหงิด ทุกข์ทรมานใจ เห็นมั้ยว่าตกนรกทั้งเป็นอยู่แล้ว เวลาจะตายก็จะตายไปแล้วไปเกิดเป็นสัตว์นรก ถ้าใจลอยเหม่อๆทั้งวัน เห็นหมาเห็นแมวเวลามันนั่งอยู่ตัวเดียวไม่มีอะไรทำ มันจะนั่งเหม่อ มีมั้ยหมาแมวนั่งพุทโธๆ ไม่มีหรอก มีแต่นั่งเหม่อ มีแต่นั่งใจลอย เพราะฉะนั้นใจลอยก็ไปขีดช่องใจลอยนะ แล้วเราจะรู้เลยต่อไปเราจะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ตายแล้วไปไหน ไปตามที่จิตเคยชิน

แต่ถ้าใครเล่นเกมส์นี้นะ จะไปนิพพานะ เพราะอะไร เพราะทุกครั้งที่เรารู้ว่าใจโลภ เรามีสติ ๑ คะแนน ทุกครั้งที่เรารู้ว่าใจโกรธ เราได้สติมาอีกหนึ่งคะแนน ได้ความรู้ทันไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นคะแนนรวมที่เราทำได้ คือจำนวนค่าบวกนะ คือค่าบวกนะ (คือ ทุกครั้งที่รู้ทันความโลภ ทุกครั้งที่รู้ทันความโกรธ ทุกครั้งที่รู้ทันความหลง ก็คือทุกครั้งนั้นแหละมีสติ การเล่นเกมส์นี้จึงได้คะแนนการมีสติหรือรู้ทันกายใจ มากที่สุด – ผู้ถอด) เพราะฉะนั้น ถ้าใครเล่นเกมส์นี้รับรอง ไม่ไปอบายหรอก มันก็คือการฝึกกรรมฐานอย่างหนึ่งนั่นแหละ คือ ฝึกรู้ทันใจตนเอง คนส่วนใหญ่จิตมีกิเลสแล้วไม่เคยเห็น ตายไปมันก็ไปตามกิเลสนั่นแหละ ทำไมเปรตต้องคอยาว หือ เคยเป็นห่วงใครมั้ย เวลาเป็นห่วงคนที่เรารักกลับบ้านช้า ชะเง้อดูมั้ย เมื่อไหร่จะมา ชะเง้อมากๆ(คอ)เลยยืดไปเลยนะ ตายไปแล้วคอยาวเลย

เราเป็นอย่างที่เราทำนะ เราเป็นอย่างที่เราทำ จิตของเราจะไหลไปตามความเคยชิน ธรรมชาติของจิตย่อมไหลไปตามความเคยชิน เพราะฉะนั้นเราพยายามมาฝึกความเคยชินใหม่ คือฝึกความเคยชินที่จะรู้สึกตัว รู้ทันจิตรู้ทันใจนะ ศีล สมาธิ ปัญญา เราดีขึ้น เราไม่ไปที่ต่ำหรอกนะ


CD: บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) วันอังคารที่ ๑๖ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๕
File: 551016.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๔ วินาทีที่ ๒๓ ถึง นาทีที่ ๔๗ วินาทีที่ ๕๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : โอภาสและแสงต่างๆ

โอภาสและแสงต่างๆ

สิ่งที่เรียกว่า โอภาส

จะเกิดในระหว่างกำหนดรู้ความเกิดดับของอารมณ์ตามหลักของวิปัสสนากรรมฐาน

แต่จิตเกิดพลิกตัวกลับมาเดินในภูมิของสมถกรรมฐาน

โดยเจ้าตัวไม่รู้ทัน แล้วเกิดโอภาส เป็นความสว่างที่ฉายออกไปภายนอก

บางท่านอยู่ในถ้ำมืดๆ สามารถมองเห็นทุกอย่างชัดเจนเหมือนอยู่ในที่สว่าง

หรือในป่าเวลากลางคืน  กลับมองเห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจนเหมือนอยู่กลางแสงจันทร์เต็มดวง

บางครั้งน้อมเอาความสว่างโอภาส ไปรู้เห็นพวกกายทิพย์ ก็สามารถทำได้

 (นิมิตที่เป็นความสว่าง ก็สามารถใช้น้อมออกไปรู้สิ่งภายนอกได้เช่นกัน)

คนที่หลง โอภาส บางคนจะคิดว่าตนเองบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว

จัดเป็นอาการติดวิปัสสนูปกิเลสอย่างหนึ่ง

 

สิ่งที่เป็นแสงสว่างอีกอย่างหนึ่ง เป็นลักษณะมัวๆ เรืองแสงหน่อยๆ

อันนั้นเป็นกิเลสตระกูลโมหะ ที่แทรกเข้ามาในจิตผู้ปฏิบัติ

และถ้ามันค่อยๆ ผ่องใสขึ้นเรื่อยๆ

จนถึงขั้นจิตประภัสสร นั่นคือหัวโจกของกิเลสตระกูลโมหะ คืออวิชชา

แสงสว่างในตระกูลโมหะนั้น ไม่ได้ฉายออกไปข้างนอก

แต่ห่อหุ้มคลุมบัง หรือแทรกอยู่กับจิตผู้รู้

 

ความสว่างอีกอย่างหนึ่งคือ ปัญญา

อันนี้เป็นความรู้สึกสว่างสดใสในจิตใจ เมื่อจิตไปรู้เห็นไตรลักษณ์เข้า

เช่นเมื่อผู้ปฏิบัติเห็นศพคนตาย หรือบิดามารดาตาย

จิตใจจะเกิดความสว่างผ่องใส  เพราะเห็นจริงในสัจธรรมว่า

 ใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นก็ดับไปเป็นธรรมดา

 

ความสว่างอีกอย่างหนึ่งเป็น รัศมีของจิต

 ที่จริงจิตของแต่ละคน(ที่ดีๆ) จะมีรัศมี

จิตที่ละเอียดประณีตมาก ยิ่งมีรัศมีมาก

เช่นพวกเทพชั้นล่างๆ เช่นรุกขเทวดา มีรัศมีเล็กๆ ประมาณแสงดาวเท่านั้น

ส่วนเทพชั้นสูงขึ้นไป หรือพรหม จะมีรัศมีแผ่ซ่านไปไกล

สำหรับผู้ทรงฌาน  ก็มีรัศมีมากเช่นกัน

เวลาเจอกับพวกกายทิพย์

เขาจะรู้บารมีกันตรงที่รัศมีมากน้อยกว่ากันนี่แหละครับ

แต่รัศมีนี้ หมายถึงรัศมีในภาวะปกติ

บางคนที่ชำนาญในฌาน สามารถเปล่งรัศมีมากกว่าปกติได้เป็นคราวๆ

 

สำหรับบรรดาพระอริยบุคคลนั้น ถ้าท่านร่าเริงในธรรม จะมีประกายผุดผ่องมาก

ถึงขนาดบางคนสามารถสังเกตความผุดผ่องของพระอริยบุคคลได้ด้วยตาเปล่า

จะมีลักษณะคล้ายๆ ความใสที่แทรกอยู่ในเนื้อหนัง

แต่ที่จริงแล้ว  ความสว่างนั้นแผ่ซ่านออกมาตั้งแต่เยื่อในกระดูกทีเดียว

โดย คุณสันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2542

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 2 of 41234