Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

พละ ๕ ของพระเสขบุคคล (๑) ศรัทธา

mp 3 (for download) : พละ ๕ ของพระเสขบุคคล (๑) ศรัทธา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : พละ ๕ (คือ)กำลังทั้ง ๕ มีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา จะหนุนเสริมซึ่งกันและกันไปเรื่อยๆ

นี่ศรัทธาของปุถุชนนะยังคลอนแคลนง่าย ทีนี้พอเราภาวนามากเข้าๆ วันหนึ่งเป็นพระอริยะ กำลังของพระอริยะเนี่ย เป็นเรื่องแปลกนะ ท่านไม่อธิบายกำลังของพระอริยะด้วย ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา กำลังของพระอริยะที่ไม่ใช่พระอรหันต์ ท่านอธิบายถึงกำลัง ๕ เหมือนกัน อันแรกคือ ศรัทธา แต่ศรัทธานี้นะ ไม่เหมีอนศรัทธาที่พวกเราศรัทธา ศรัทธาต่อพระอริยะต่อพระพุทธเจ้าเนี่ย คือไม่มีความคลอนแคลนอีกแล้ว เป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่ทำให้ไม่คลอนแคลน เป็นความเคารพเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า รู้ว่าท่านมีจริง ท่านสอนจริง ท่านสะอาดจริง ท่านเก่งจริงนะ ท่านเมตตากรุณาจริงๆ ใจนี้ซาบซึ้งมากเลย ฝากเป็นฝากตายกับท่านได้เต็มที่เลย

เป็นกำลังของพระที่เรียกว่าพระเสขบุคคล เสขบุคคลคือตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี เป็นเสขบุคคล ส่วนพระอรหันต์เรียกว่า อเสขบุคคล เสขะ หรือสิกขา หรือ สิกขา หรือ ศึกษานี่เอง คนไทยใช้คำว่า “ศึกษา” โสดาฯ สกทาคาฯ อนาคาฯ เป็นอริยบุคคลชนิดที่ยังต้องศึกษาอีก พระอรหันต์เป็นพระอริยะประเภท อเสขะ คือไม่ต้องศึกษาอีกแล้ว เรียนจบแล้ว

กำลังของพระเสขะ คือผู้ที่ยังต้องศึกษาอยู่ จะมีศรัทธาแน่นแฟ้นในพระพุทธเจ้านะ ตัวนี้เต็มร้อยเลย


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๒
File: 561110A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๑๒ ถึงนาทีที่ ๑๓ วินาทีที่ ๖

ตัดคลิปส์โดยคุณ ok2077
ถอดคลิปส์และตรวจทานโดยคุณ พัลวัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศรัทธาที่ถูกต้อง

mp3 for download :ศรัทธาที่ถูกต้อง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : อาศัยการฟังนะ แล้วก็ ใจเรามีศรัทธาในพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ศรัทธาในครูบาอาจารย์นะ จะต้องฉลาดกว่านั้น บางคนศรัทธาพระเป็นองค์ๆ อย่างนั้นโง่มากเลย ควรศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า ศรัทธาต่อพระธรรม เป็นหลักไว้ คำว่าพระสงฆ์ที่เราพูดกันว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ใช่พระทั่วๆไป พระทั่วๆไปเรียกว่าภิกขุ ภิกษุ (ภิกขุเป็นภาษาบาลี ส่วนภิกษุเป็นภาษาสันสกฤต – ผู้ถอด) พระสงฆ์นั้นหมายถึงเฉพาะพระอริยสาวก แต่ในยุคนี้เราไม่รู้ว่าใครเป็นพระอริยสาวกนะ พระพุทธเจ้าไม่ได้มารับรองไว้ให้แล้วนะ เชื่ออะไรไม่ได้หรอก แต่กับพระพุทธ-พระธรรมเนี่ย ให้แน่นแฟ้นตรงนี้ไว้ เราภาวนาไปนะ พอถึงวันหนึ่งใจเราเป็นพระสงฆ์ขึ้นมาจริงๆ เราจะรู้ว่าใครเป็นพระสงฆ์ แต่ถ้าใจเราเป็นปุุถุชน เราก็รู้อะไรไม่ได้จริงหรอก รู้ว่าใครได้ธรมะน่ะ ไม่ได้หรอก ได้แต่เดาเอา ได้แต่ลือ

ถ้าเรามีศรัทธาในพระพุทธเจ้านะ ว่าเมื่อก่อนนี้พระพุทธเจ้าก็เป็นคนอย่างเรานี่แหละ ท่านก็มีกิเลสเหมือนเรา มีลูกมีเมียมีอะไรเหมือนเรานี่แหละ ทำไมท่านดิ้นรนจนหลุดออกไปได้ ท่านดิ้นรนไปได้ด้วยเส้นทางไหน ทำไมท่านจึงมีชื่อเสียงเกียรติคุณมาได้ตั้งหลายพันปี คนอื่นไม่เห็นมีใครมีชื่อเสียงอย่างนี้ เราลองฟังดูว่าท่านสอนอะไร แล้วลงมือทำ ศรัทธาของเราจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆนะ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๐ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
CD ส่วนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๒
File : 561110A
ระหว่างเวลา นาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๒๒ ถึง นาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๒๒

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เมื่อภาวนามากเข้าก็จะเห็นว่า สภาวธรรมต่างๆเหมือนเล่นละครให้เราดู

mp3 for download : เมื่อภาวนามากเข้าก็จะเห็นว่า สภาวธรรมต่างๆเหมือนเล่นละครให้เราดู

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :สติก็ต้องละเอียดขึ้น ศรัทธา วิริยะ สติ ต้องดีขึ้นๆ สมาธิคือความตั้งมั่นของจิต จิตใจต้องอยู่กับเนื้อกับตัว จิตไหลไปแล้วรู้ จิตไหลไปแล้วรู้ รู้ไวๆ เอาสตินั้นแหละไปรู้ สมาธิก็จะเพิ่มขึ้นๆ ต่อไป จิตก็จะเป็นคนดู เห็นทุกอย่างแสดง รูปธรรมแสดงละครให้ดู นามธรรมแสดงละครให้ดู โลภโกรธหลงก็แสดงละครให้เราดู สุขทุกข์ก็แสดงละครให้เราดู ใจเป็นคนดู นี่เรียกว่าใจมีสมาธินะ

ปัญญาก็จะเกิด ก็จะเห็นเลย รูปธรรมที่แสดงละคร มันก็แค่ละคร ละครมันไม่ใช่ของจริงหรอก นามธรรมทั้งหลายนะ พวกความสุขความทุกข์ กุศล-อกุศลทั้งหลายนะ ก็แสดงละครให้เราดู ไม่ใช่ของจริงอะไรหรอก ไม่มีตัวมีตน ตัวจิตเองก็แสดงละคร เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยววิ่งไปทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก็เล่นละครให้เราดูอีกนะ ปัญญามันก็เกิดนะ มีแต่ละครนะ มีแต่ของหลอกนะ มีแต่ภาพลวงตานะ
ขันธ์ ๕ นี้ไม่มีจริง (หมายถึง ไม่ถาวรจริง) มีขึ้นมาชั่วครั้งชั่วคราว เหมือนภาพลวงตา เหมือนความฝัน เหมือนพยัพแดด เห็นปัญญาแก่กล้า ก็ปล่อย

ปล่อยขันธ์ไปตามลำดับนะ เบื้องต้นก็ปล่อยรูปธรรมไปก่อน เบื้องปลายก็ปล่อยนามธรรม ปล่อยรูปธรรมได้ ได้พระอนาคา(มี) ปล่อยนามธรรมได้ก็หมดแล้ว จบกิจ ไม่มีธุระที่จะต้องปฏิบัติอีกแล้ว

ไปฝึกเอานะ ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ แล้วจะรักพระพุทธเจ้า ไม่ใช่กูเก่งนะ ภาวนาแทบเป็นแทบตาย แล้วจะรู้สึกว่าพระพุทธเจ้าเก่ง ไม่ใช่กูเก่งหรอก เพราะกูไม่มี กูไม่มี มันว่างจากความเป็นตัวเป็นตน

เอ้าไปฉัน ไปทานข้าวกันไป


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๒ ถึงนาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การภาวนาที่ประกอบด้วย พละ ๕ / อินทรีย์ ๕

mp3 for download : การภาวนาที่ประกอบด้วย พละ ๕ / อินทรีย์ ๕

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :ฝึกจิตฝึกใจของเราเนี่ย ให้มันมีสติบ่อยๆ ให้มันมีสมาธิหรือความตั้งมั่นให้มาก เคารพอ่อนน้อมในพระพุทธเจ้า มีความขยันหมั่นเพียรทำในรูปแบบ แล้วเจริญปัญญาไป เห็นมั้ยที่หลวงพ่อสอน สอนครบนะ ในพละ ๕

สอนให้เคารพรักในพระพุทธเจ้า เบื้องต้นก็เคารพรักด้วยการน้อมใจไปก่อน เพราะยังไม่เห็นจริง ก็มีความเพียรนะ ทุกวันต้องปฏิบัติในรูปแบบ ต้องฝึกสติ ขาดสติไม่ได้ ต้องฝึกสมาธิ ต้องมีใจอยู่กับเนื้อกับตัว ต้องเจริญปัญญา ต้องแยกรูปแยกนาม เห็นมั้ย งานที่สอนให้ทำ เพราะฉะนั้นเราต้องฝึกนะ ฝึกของเรา อินทรีย์ ๕ ต้องครบ

ถ้าเบื้องต้นนะ คอยคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้าไว้ คุณของพระพุทธเจ้ามีมาก ท่านมีปัญญาอย่างยิ่ง ท่านค้นพบเส้นทางที่แสนจะยาก ขนาดท่านนำมาบอกเรานะ เรายังทำไม่ค่อยจะได้เลย กระพร่องกระแพร่ง แต่คนที่ทำได้ก็มี แสดงว่าสิ่งที่ท่านค้นพบนั้นมันถูกต้อง

ยกตัวอย่างเวลาที่เราเห็นครูบาอาจารย์เนี่ย หลวงพ่อแต่ก่อนเห็นครูบาอาจารย์เยอะ ตระเวณไปหาครูบาอาจารย์มากมาย ไม่ใช่สายวัดป่าอย่างเดียวนะ ไปสายอื่นก็มีที่ภาวนาเก่งๆ นอกสายวัดป่าก็มี นอกลู่นอกทางไปเลยก็เยอะ นอกสายวัดป่าที่ท่านเก่งๆ ยกตัวอย่างเช่น ครูบาพรหมจักร์ ท่านเก่ง หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านเก่ง เก่งของท่านน่ะ ไม่ใช่วัดป่าหรอก อีกองค์ที่เก่ง แต่หลวงพ่อไม่ทันท่าน ไปหาไม่ทันคือ หลวงปู่บุดดา หลวงปู่บุดดานะ ท่านภาวนา ๓ พรรษาเอง เร็วกว่าเพื่อนเลย เร็ว เนี่ยตระเวณไปเห็นครูบาอาจารย์แต่ละองค์นะ ผ่องใส ขนาดว่าแก่มากๆนะ ยังดูสดใส หลวงปู่คร่ำใครเคยรู้จักมั้ย หลวงปู่คร่ำ ชื่อคร่ำ แต่ดูไม่คร่ำคร่า สดใส อายุร้อยกว่าปี อยู่ที่เมืองแกลง สิ้นไปแล้วล่ะ ใจดี เมตตาสูง จิตเนี่ย โห..เย็นฉ่ำเลย สติสมาธิปัญญาบริบูรณ์เลย ดีมากๆเลย ท่านก็ฝึกของท่านนะ คนละแบบคนละแนวกันมา ท่านก็ดีของท่านน่ะ

เห็นท่านแล้ว โอ้.. สดใส แต่ละองค์ๆ แก่ขนาดไหนก็สดใส ท่านมีธรรมะของพระพุทธเจ้า เจ็บป่วยขนาดไหนก็สดใส เห็นหลวงปู่สุวัจน์ (เพิ่มเติม : เรื่องเล่าครูบาอาจารย์ : หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ บรรลุธรรมด้วยอิริยาบทเดิน) นั่งบนรถเข็นแท้ๆเลย ท่านดูผ่องใสจังเลย สะอาดหมดจดเหลือเกินนะ เราสกปรกมอมแมมไม่ได้อย่างท่านเสียที มองไป โอ้.. งาม นั่งรถเข็นนะ จะกลืนน้ำลายยังกลืนไม่ได้เลย พระต้องคอยดูดน้ำลายให้นะ ท่านก็นั่ง.. ไปนั่งใกล้ๆนะ เดี๋ยวท่านก็ปรารภธรรมะ สุขแท้น้อ.. สุขแท้น้อ.. มองท่าน หา..สุขเหรอหลวงปู่ เป็นเรา เราทุกข์แท้น้อ.. เลยเนอะ ป่วยซะขนาดนั้น

หรือไปหาหลวงปู่เหรียญ ใกล้จะมรณภาพแล้ว ไปหาท่านนะ นอนอยู่บนเตียงแบบโรงพยาบาลน่ะ อยู่ที่วัด ไปถึงพระก็ไขเตียงให้ท่านตั้งหลังขึ้นมา หลังตั้งขึ้นมา นั่งขึ้นมา เท้าก็ยังเหยียดอยู่ โห..ผ่องใส งดงาม ดูจิตใจท่านร่าเริง จิตใจท่านเบิกบาน ท่านมีความสุข แก่ก็มีความสุข เจ็บก็มีความสุข จะตายอยู่แล้วยิ่งผ่องใสหนักขึ้นๆ เนี่ยท่านต้องมีอะไรดีของท่านน่ะ

การที่เราได้รู้ได้เห็นได้สัมผัสครูบาอาจารย์ที่ท่านดีของท่านจริงๆ ก็จะทำให้เรามีศรัทธาขึ้นมาเหมือนกัน แต่ละองค์ ท่านเหล่านี้น่ะ เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า แต่ละองค์สรรเสริญพระพุทธเจ้า แสดงว่าพระพุทธเจ้าท่านต้องมีอะไรดีๆแน่เลย ค่อยๆศรัทธาไปถึงพระพุทธเจ้าอีก เห็นลูกศิษย์แล้วศรัทธาอาจารย์ ถ้าลูกศิษย์โหลยโท่ยก็เสื่อมศรัทธาไปถึงอาจารย์ เนี่ยพอเห็นนะ พระพุทธเจ้าท่านต้องดีแน่ๆ ธรรมะที่ท่านสอนนะ ปราณีตลึกซึ้ง ยิ่งภาวนานะ ยิ่งจับจิตจับใจ โองามเหลือเกิน ธรรมะของท่านงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ซาบซึ้งถึงอกถึงใจมากขึ้น ศรัทธามันก็จะแก่กล้ามากขึ้นเรื่อยๆ

แล้วศรัทธาของเราจะไปเต็มตอนที่เป็นพระโสดาบันนะ เป็นพระโสดาบันเนี่ย ยอมตายถวายชีวิตเลย ใครจะบอกว่าพระพุทธเจ้าพูดโกหกเนี่ย ไม่เชื่อเด็ดขาดเลย รู้แล้วว่าท่านพูดจริง สอนของจริง ท่านสะอาดหมดจดจริง เพราะเราได้สัมผัสความสะอาดหมดจดอันนั้นด้วยการปฏิบัติของเราเอง เพราะฉะนั้นศรัทธาเนี่ยจะแก่กล้าขึ้นไปตามลำดับของการปฏิบัติของเราเอง ปฏิบัติถูกแล้วศรัทธาจะแก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ

หรือวิริยะก็เหมือนกัน หัดใหม่ๆขี้เกียจขี้คร้าน ครูบาอาจารย์ขอวันละ ๑๐ นาที ให้ไม่ค่อยจะได้เลย อยากได้นิพพาน เวลาอ้าปากขึ้นมาก็ขอนิพพาน จะให้ภาวนา ๑๐ นาที ไม่เอา ท้อแท้ หมดแรง ขาดกำลังใจ โหย..ฟังแล้ว หือ..

วิริยะนะ หัดใหม่ๆนะ โอ้ย..ภาวนานิดๆหน่อยๆจะเป็นจะตาย แล้วพอเราค่อยเห็นผลนะ อย่างหลวงพ่อหลอกล่อ เอาสิบนาที สิบนาที ห้านาที อะไรอย่างนี้ พอทำน้อยๆแล้วรู้สึกมีความสุข ทนได้ พอผ่านไปได้สักช่วงนะ ใจค่อยมีกำลังเข้มแข็งขึ้น วิริยะมันเพิ่มเองแหละพอภาวนาแล้วมีความสุข ภาวนาแล้วมีความสุข เรื่องอะไรจะมีความสุขสิบนาที เห็นมั้ย ใจก็อยากภาวนามากๆขึ้น ขยันหมั่นเพียรมากขึ้น ยิ่งเดินจงกรมก็ยิ่งมีความสุข นั่งสมาธิยิ่งมีความสุขนะ

ทำสมถะก็มีความสุข ทำวิปสสนาก็มีความสุขไปอีกแบบ ไม่เหมือนกัน ทำสมถะเนี่ยนะ ทำถ้าชำนาญ มีวสีนะ ทำเมื่อไหร่มีความสุขเมื่อนั้นเลย แต่ว่าการเจริญปัญญาไม่เป็นอย่างนั้นหรอก การเจริญปัญญานั้นบางทีตั้งครึ่งเดือน เกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นมาหน่อยนึง พอเกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยนะ จิตใจจะมีความสุขนะ อิ่มเอิบเบิกบานสักอาทิตย์หนึ่งนะ แล้วก็หมดละ แห้งแล้ง ไม่เหมือนสมถะนะ สมถะถ้าชำนาญแล้วก็ นั่งเมื่อไหร่ก็มีความสุขเมื่อนั้น ส่วนตัวปัญญาไม่เกิดบ่อย ถ้าปัญญาเกิดบ่อยจะไม่ใช่ปัญญาตัวจริง เป็นปัญญาที่เกิดจากการคิดเอาเอง เกิดทุกวัน มีปัญญาทุกวัน ปัญญาหลอกๆนะ ไม่ใช่ของจริงหรอก ถ้าเป็นปัญญาที่จิตมันรู้มันเห็น มันเข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นมานะ โอโหย.. มันแช่มชื่นใจนะ มันมีความสุข สุขคนละแบบกันสมถะ

สมถะนั้นเป็นความสุขแบบไร้เดียงสา วิปัสสนาเนี่ยถ้าเกิดปัญญาแล้วจะมีความสุข จะเป็นเหมือนความสุขของผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตน่ะ ความสุขคนละแบบ สมถะมันเป็นความสุขแบบเด็กเล่นดินเล่นทรายอะไรอย่างนั้นไป ก็มีความสุขนะ เพลิดเพลินไป วิปัสสนาเป็นความสุขของผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มันอิ่มเอิบใจ คนละแบบกัน

เนี่ยพอเราเห็นผลของการปฏิบัตินะ ความเพียรมันจะมากขึ้นๆ เห็นมั้ย เห็นผลของการปฏิบัติ ศรัทธาก็มากขึ้นเรื่อยๆ เห็นผลของการปฏิบัตินะ ความเพียรก็มากขึ้นเรื่อยๆ จะยิ่งขยันปฏิบัติ เพราะปฏิบัติแล้วดี ปฏิบัติแล้วสุข ปฏิบัติแล้วของที่ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ ของที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น น่าสนใจมาก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๑๑ ถึงนาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๑๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พละ ๕ (๕) เราต้องพัฒนากำลังให้แก่กล้าพอ จึงจะล้างกิเลสได้

mp 3 (for download) : พละ ๕ (๕) เราต้องพัฒนากำลังให้แก่กล้าพอ จึงจะล้างกิเลสได้

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ขอขอบคุณ ภาพจากงาน “ธรรมะกลางเมือง”

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าพวกเราทำในรูปแบบนะ เราค่อยๆพัฒนาไปเรื่อย กำลังของศรัทธาเราก็จะแก่กล้าขึ้น กำลังของวิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ก็จะแก่กล้าขึ้น ถ้ากำลังของเราแก่กล้าพอเนี่ย มันจะล้างกิเลส มันจะมีพลังไปล้างกิเลสได้ ถ้าเรา มัวแต่ท้อแท้ หดหู่ ท้อถอยนะ ป้อๆแป้ๆไปวันหนึ่งๆ เราสู้กิเลสไม่ไหวหรอก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย ๑๔
หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๕๖
File: 560120.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๙ วินาทีที่ ๔๕ ถึง นาทีที่ ๓๐ วินาทีที่ ๑๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พละ ๕ (๒) ศรัทธา

mp 3 (for download) : พละ ๕ (๒) ศรัทธา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ขอขอบคุณ ภาพจากงาน “ธรรมะกลางเมือง”

หลวงพ่อปราโมทย์ : หลวงพ่อสอนเนี่ย สอนให้พวกเราพัฒนากำลังทั้ง ๕ นี้ สอนทุกวันนะ พวกเราอาจจะไม่รู้ อย่างหลวงพ่อสอนพวกเรา บอกว่า ทุกวันต้องทำในรูปแบบ ต้องไหว้พระ ต้องสวดมนต์ ต้องคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้า กระทั่งพวกเราจะมาขอบคุณหลวงพ่อ ว่าสอนแล้วพวกเราปฏิบัติพ้นทุกข์ หลวงพ่อบอกให้ขอบคุณพระพุทธเจ้า นึกออกมั้ย เราจะต้องคิดถึงครูบาอาจารย์ของเรา พ่อแม่ของเรา สูงที่สุดนะ อาจารย์ที่สอนเรานี่ ก็เป็นแค่ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า เพราะงั้นสูงสุดของเราคือพระพุทธเจ้า ใจของเราต้องยึดถือท่านนะ คิดถึงท่านเรื่อยๆ คิดถึงคุณงามความดีของท่าน

ท่านไม่ใช่เป็นอะไรกับเราซักหน่อย ทำไมมีความเมตตากรุณานะ ยอมลำบากยากเข็ญตั้งนานแสนนาน เพื่อจะค้นคว้าธรรมะมา ได้ธรรมะมาแล้ว แทนที่ท่านจะเสพสุข เป็นพระอรหันต์มีความสุขจะตายไป ท่านกลับทุกข์ทรมานนะ ต้องออกมาสู้กับพวกมิจฉาทิฏฐิ สู้กับกิเลส มิจฉาทิฏฐิก็พยายามบอมบ์ท่านนะ ถึงขนาดจ้างผู้หญิงมาแกล้งว่าทำเป็นท้องกับท่านก็มี จ้างคนมาด่าท่านก็มี ทำได้สารพัดเลยที่จะเล่นงานท่าน ต่างๆนานา ท่านต้องสู้กับพวกมิจฉาทิฏฐิ ต้องสู้กับกิเลสของพวกเราแต่ละคนด้วย เวลา(ฟัง)คำสอนของท่านเนี่ย เป็นคำสอนที่ฝืนกิเลสพวกเรา เราบางคนรับไม่ไหวนะ พวกกิเลสแรง รู้สึกคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่เอาดีกว่า

เนี่ยท่านต้องมาต่อสู้นะ กว่าจะตั้งศาสนาขึ้นมาได้ ถ่ายทอดสืบทอดมาถึงเราเนี่ย ท่านยากลำบากมากมาย เพราะปัญญาของท่านมหาศาล ที่จะค้นพบธรรมะได้เอง ขนาดธรรมะที่ท่านค้นแล้ว เอามาสอนเรา เรายังทำได้บ้างไม่ได้บ้างเลย เห็นมั้ย ปัญญาของท่านมาก ความกรุณาของท่านมากนะ ถ้าเราหัดภาวนาไปเรื่อย ใจของเราสงบ สะอาด สว่างนะ เข้าถึงความบริสุทธิ์มากขึ้นๆ เราก็จะรู้ถึงความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าด้วย เนี่ยพอใจของเรายิ่งภาวนาไป ใจเรายิ่งห่างไกลความทุกข์ เราจะยิ่งเคารพ ยิ่งรักพระพุทธเจ้าแน่นแฟ้นนะ ศรัทธาของเราจะมีกำลังมากขึ้นๆ

งั้นบางวันถ้าหมดศรัทธานะ พยายามนะคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้าไว้ พยายามคิดถึงคุณของท่านไว้ แล้วพอเราคิดถึงคุณของท่าน ใคร่ครวญถึงคุณงามความดีของท่านนะ ใจก็เกิดศรัทธาขึ้นมาอีก หรือเราคบกับคนที่เค้ามีศรัทธา ถ้าเราคบคนที่มีศรัทธานะ เราก็จะโน้มนำไปให้เกิดศรัทธา เราไปคบพวกมิจฉาทิฏฐิไม่มีศรัทธานะ มันก็พาเราเสื่อมศรัทธาไปด้วยนะ เรื่องคบคนก็สำคัญนะ เนี่ยหลวงพ่อก็สอนพวกเราทุกวัน ต้องไหว้พระ ต้องสวดมนต์ คิดถึงคุณของพระ อันนี้คือพัฒนาพลังของศรัทธาขึ้นมา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย ๑๔
หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๕๖
File: 560120.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๕๙ ถึง นาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๔๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พละ ๕ (๑) กำลังทั้ง ๕ ต้องพอ จึงจะเกิดอริยมรรค

mp 3 (for download) : พละ ๕ (๑) กำลังทั้ง ๕ ต้องพอ จึงจะเกิดอริยมรรค

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ขอขอบคุณ ภาพจากงาน “ธรรมะกลางเมือง”

หลวงพ่อปราโมทย์ : แรงของนักปฏิบัติก็มี ๕ แรง มีกำลังมีพละ ๕ อย่าง เรามีศรัทธามั้ย บางวันเราก็มีศรัทธาใช่มั้ย บางวันพระพุทธเจ้าขัดผลประโยชน์ของเรา เราก็ไม่เอา เราก็เอาผลประโยชน์ ไม่เอาพระพุทธเจ้า ศรัทธาของเราก็ผลุบๆโผล่ๆ

วันนี้มีศรัทธา อีกวันนึงไม่มีศรัทธา วันนี้มีวิริยะนะขยันหมั่นเพียร อีกวันนึงขี้เกียจไปแล้ว วิริยะไม่มี บางวันมีสติใช่มั้ย ช่วงนึงมีสติอยู่ ๑ วัน ขาดสติไป ๗ วันอย่างนี้ กำลังของสติเราไม่พอ จิตใจของเราไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว จิตใจเราร่อนออกข้างนอกตลอดเวลา เนี่ยสมาธิเราไม่พอ กำลังของสมาธิไม่พอ เราไม่ค่อยสนใจที่จะคอยแยกธาตุแยกขันธ์ แล้วดูความเป็นไตรลักษณ์ของธาตุของขันธ์ ของกายของใจ นานๆเห็นทีนึง รู้สึกมั้ย นานๆก็เห็นร่างกายไม่ใช่เรา แว้บนึงนะ บางทีแปรงฟันอยู่ เห็นไม่ใช่เรามั้ย ที่เหลือเป็นเราหมดเลย เนี่ยปัญญากำลังปัญญาเราไม่พอ

ถ้ากำลังของเราพอนะ ศรัทธาของเราแน่นแฟ้น วิริยะของเราต่อเนื่อง สติของเราทำงานได้รวดเร็ว สมาธิเราดี จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว ปัญญาของเราดี เราแยกธาตุแยกขันธ์ เห็นไตรลักษณ์ของธาตุของขันธ์ ของกายของใจอย่างสม่ำเสมอ ถ้าแรงเราพอแบบนี้นะ จิตจะยิ่งมีกำลังที่จะตัดกิเลส เกิดอริยมรรค เกิดอริยผล เกิดอริยมรรคฆ่ากิเลสได้ ถ้ากำลังไม่พอ ไม่เกิดอริยมรรคหรอก

งั้นเราต้องมาพัฒนากำลังของเรานะ จุดอ่อนของฆราวาสคือกำลังน้อย สังเกตมั้ย บางวันก็ศรัทธา บางวันก็ไม่ศรัทธา บางวันก็(มี)วิริยะใช่มั้ย บางวันก็ไม่มีวิริยะ บางวันน้อยวันที่มีสติ จำนวนมากไม่มีสติหรอก หลงแหลกลาน จิตที่หลงไปกับจิตที่รู้สึกตัว จิตที่ตั้งมั่นอยู่กับตัวเอง มีน้อย รู้สึกมั้ย สภาวะที่หลงไปมีเยอะ สมาธิเราไม่พอนะ งั้นเราต้องพยายามมาพัฒนากำลังทั้ง ๕ เนี่ย ผนึกกำลังทั้ง ๕ นี่ขึ้นมาให้ได้นะ รวมแรงทั้ง ๕ นี้ขึ้นมาเนี่ย จะฆ่ากิเลสตาย เราต้องมารวมแรง


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย ๑๔
หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๕๖
File: 560120.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๙ วินาทีที่ ๓๙ ถึง นาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๕๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

มีปัญญาจะรู้ความจริงของสภาวะ

mp3 for download : มีปัญญาจะรู้ความจริงของสภาวะ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

มีปัญญาจะรู้ความจริงของสภาวะ

มีปัญญาจะรู้ความจริงของสภาวะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ความรู้สึกที่เกิดขึ้นทางใจมีสองพวก พวกหนึ่งคือความรู้สึกสุขรู้สึกทุกข์ เรียกว่า “เวทนาทางใจ” มีศัพท์เพราะๆนะ ความสุขทางใจก็ไม่เรียกสุขเวทนา เรียก “โสมนัสเวทนา“  ฟังให้เป็นแขกมากๆหน่อย ความทุกข์ทางใจก็ไม่เรียกว่าทุกขเวทนา เรียก “โทมนัสเวทนา“  โสมนัส โทมนัส ใครเคยได้ยินคำว่า โสมนัส บ้าง? ชื่อวัดใช่ไหม? วัดโสมนัสฯ ดูให้ดี โสมนัส โทมนัส ความสุขความทุกข์ทางใจไม่ใช่จิตหรอก เป็นสิ่งที่แปลกปลอมเข้ามาในจิต มีอีกเวทนาหนึ่งเกิดขึ้นที่จิต เรียก “อุเบกขาเวทนา” เป็นความรู้สึกเฉยๆไม่สุขไม่ทุกข์

สิ่งที่แปลกปลอมเข้ามาในจิต มีอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า “สังขาร” มีสองอัน มีเวทนากับสังขาร แปลกปลอมเข้ามาในจิต “สังขาร” ก็คือ ความปรุงดี ความปรุงชั่ว ความปรุงกลางๆไม่ถึงกับดีไม่ถึงกับชั่ว

ความปรุงดี เช่น ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เป็นความปรุงดี เพราะฉะนั้นปัญญาก็เป็นของปรุงแต่งนะ เมื่อเป็นของปรุงแต่งได้ เกิดได้ ยังดับได้อยู่ ยังเป็นของปรุงแต่งอยู่ สติล่ะ สติก็เป็นของปรุงแต่ง เกิดได้ ยังดับได้อยู่ มันอยู่ในขันธ์น่ะ ไม่ใช่ของดีของวิเศษแท้จริงแล้ว

เพราะฉะนั้นตัวกุศลทั้งหลายเอง ก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ แปรปรวน เกิดแล้วก็ดับเหมือนกัน มีเหตุถึงจะเกิด ไม่มีเหตุไม่เกิดหรอก สติก็ต้องมีเหตุของสติถึงจะเกิด สมาธิก็ต้องมีเหตุของสมาธิ ศรัทธาก็ต้องมีเหตุของศรัทธา วิริยะก็ต้องมีเหตุของวิริยะ สมาธิก็ต้องมีเหตุของมัน แต่ละอันๆมันมีเหตุ  ความปรุงดีมันแทรกเข้ามาในจิต มันไม่ใช่จิต สติไม่ใช่จิต ศรัทธาไม่ใช่จิต สมาธิไม่ใช่จิต ปัญญาไม่ใช่จิต เป็นความปรุงดี

ความปรุงชั่ว ได้แก่ โลภ โกรธ หลง นี่พูดแบบรวบย่อ กิเลสสามตระกูล โลภ โกรธ หลง แต่ละตระกูลก็แยกย่อยออกไปได้เยอะแยะ

โลภะเป็นความโลภ ราคะก็โลภ อยู่ในตระกูลโลภเหมือนกัน ความอยากก็อยู่ในตระกูลโลภ ความยึดถือในความคิดความเห็น อันนี้ก็อยู่ในตระกูลโลภะเรียกว่าทิฎฐิ ตระกูลโลภก็มีเยอะแยะเลย

ตระกูลโกรธก็เยอะนะ เช่น ความเศร้าโศก ความเศร้าโศกเสียใจ เป็นกิเลสตระกูลโทสะ ตระกูลโกรธ ความกลัว ความกังวล ความตระหนี่ เวลาความตระหนี่เกิดขึ้นมาในใจ รู้สึกมีสุขหรือมีทุกข์ เวลาใจเกิดความตระหนี่ขึ้นมา ใจเป็นทุกข์นะ ไม่ใช่ใจเป็นสุข เมื่อไรใจเป็นทุกข์ อันนั้นตระกูลโทสะ เพราะจิตที่มีโทสะจะมีความทุกข์เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นอะไรเกิดขึ้นมาแล้วใจเป็นทุกข์นะ รู้ได้เลยว่า อันนี้เป็นตระกูลโทสะ ดูง่ายๆเลย ความอิจฉา อิจฉาเกิดแล้วมีความสุขไหม ความกังวลนี่เยอะแยะเลยนะ ตระกูลโทสะ มีลูกมีหลานยั้วเยี้ยเต็มไปหมดเลย

ตระกูลหลง ตระกูลโมหะ เช่น ฟุ้งซ่าน โมหะนี้เป็นตระกูลที่ว่า เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราจะไม่เห็นรูปนามตามความเป็นจริง มันปิดกั้นปัญญา โมหะกับปัญญาเป็นสิ่งตรงข้ามกัน บางทีเรียกปัญญาว่า “อโมหะ” ไม่มีโมหะ โมหะกับปัญญาตรงข้ามกัน มีปัญญาก็จะรู้สภาวะทั้งหลายตามความเป็นจริง รู้ความจริงของสภาวะ มีปัญญาจะรู้ความจริงของสภาวะ ถ้ามีโมหะจะไม่รู้ความจริงของสภาวะ เช่นโกรธอยู่-ไม่รู้ว่าโกรธอยู่ นี่กำลังหลงอยู่นะ มีโมหะ  โลภอยู่-ไม่รู้ว่ากำลังโลภอยู่ มีโมหะ

ทำไมมันไม่รู้? เพราะใจมัวหนีไปที่อื่น เรียกว่าใจมันฟุ้งซ่าน เพราะฉะนั้นโมหะมีตัวใหญ่ตัวหนึ่งนะ คือ อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน เวลาจิตฟุ้งซ่านไปทางตา ฟุ้งซ่านไปทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ฟุ้งซ่านไปคิด มันจะไม่รู้สภาวะแล้ว มันจะลืมตัวเอง เพราะฉะนั้นความฟุ้งซ่านเกิดขึ้นมา จะไม่เห็นสภาวะ

ยังมีโมหะตัวอื่นๆอีก เช่น ความลังเลสงสัย แต่ถ้าเราสงสัยว่าถนนนี้ไปไหน คนๆนี้ชื่ออะไร อันนี้ไม่เรียกว่าโมหะ โมหะนี้สงสัยในพระรัตนตรัย พระพุทธเจ้ามีจริงหรือ ธรรมะจะจริงหรือ การปฏิบัตินี้มันเป็นไปได้หรือเปล่า มันทำได้อย่างไร พระอริยสงฆ์จะมีจริงหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อว่าจะมี พระพุทธเจ้าก็คงเป็นนักปราชญ์คนหนึ่งหรอก เป็นนักปราชญ์ที่คิดเก่งหน่อย หรืออาจจะไม่ใช่มีคนเดียวด้วย เป็นคนที่แต่งตำรา เขียนพระไตรปิฎก อาจเป็นคนกลุ่มใหญ่เลยช่วยกันเขียนขึ้นมา แล้วโมเมว่ามีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง คิดได้ขนาดนี้นะ ธรรมะก็ไม่มีอะไรหรอก เป็นปรัชญา สอนไปเพื่อหลอกให้คนทำดี สังคมจะได้สงบสุข แน่ะ คิดไปได้ขนาดนั้น ศีลธรรมก็ไม่มี นรกสวรรค์ก็ไม่มีหรอก เป็นอุบายของนักปราชญ์ ที่จะให้สังคมสงบสุข เนี่ยใจตระกูลอย่างนี้นะ มิจฉาทิฎฐิทั้งนั้นเลย พวกนี้ต้องล้างด้วยปัญญา ปัญญาเกิดจากการภาวนานะ ถึงจะล้างมันไหว ถ้าภาวนาไม่เป็น ก็สงสัยว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีจริงหรือ

ถ้าภาวนาเป็น ได้เป็นพระโสดาบันเมื่อไหร่ ไม่สงสัยอีกต่อไป เพราะฉะนั้นคนที่ล้างความสงสัยได้เด็ดขาด ต้องเป็นพระโสดาบัน


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๓


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๓
ลำดับที่ ๗
File: 530606A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๒๑ ถึง นาทีที่ ๑๘ วินาทีที่ ๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่