Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

การเจริญสติในชีวิตประจำวัน เป็นหัวใจของการปฏิบัติธรรม

mp 3 (for download) : การเจริญสติในชีวิตประจำวัน เป็นหัวใจของการปฏิบัติธรรม

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์: เรื่องการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เรื่องนี้เป็นเรื่องหัวใจของการปฏิบัติธรรมทีเดียว พวกเราเวลาคิดถึงการปฏิบัติธรรมนะ เราจะวาดภาพว่า ต้องไปนั่งสมาธิ ต้องไปเดินจงกรม จะทำอะไรก็ต้องไม่เหมือนมนุษย์ธรรมดา ต้องช้าๆ ต้องนุ่มนวล ต้องช้าๆ ค่อยๆขยับ ยกตัวอย่างจะเดินก็ต้องช้าๆนะ จะทำอะไรทุกอย่างต้องช้าๆ แล้วจะเรียกว่าเป็นการปฏิบัติธรรม นั่งก็ต้องหลับตา ถึงจะเรียกว่าปฏิบัติธรรม นั่งลืมตาก็ไม่ได้ ต้องนั่งในท่านี้ด้วย ต้องเดินในท่านี้ด้วย ถึงจะเรียกว่าการปฏิบัติ

ในความเป็นจริงการปฏิบัติธรรมไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก การปฏิบัติธรรมจริงๆคือการมีสติ เมื่อไรมีสติเมื่อนั้นมีการปฏิบัตินะ มีความเพียร เมื่อไรขาดสติ เมื่อนั้นขาดการปฏิบัติ ขาดความเพียร เพราะฉะนั้นหลวงปู่มั่นท่านสอนไว้ดีมากเลย ท่านบอกว่า ถ้าเราทำสมาธิมาก จะเนิ่นช้า ถ้าเราค้นคว้าพิจารณาธรรมะมาก พิจารณากาย พิจารณาอะไรมากเนี่ย จิตจะฟุ้งซ่าน หัวใจสำคัญของการปฏิบัติเนี่ย คือการเจริญสติในชีวิตประจำวัน

การเจริญสติในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องไม่นั่งสมาธิ ไม่เดินจงกรม ไม่ทำในรูปแบบ ไม่ใช่ อาศัยการทำในรูปแบบในเบื้องต้นนี้เอง เป็นการฝึกให้เกิดสติ เมื่อมีสติแล้ว เราเอาสติมาใช้ในชีวิตประจำวัน จะแตกหักกันก็ตรงที่ว่า ใครจะเจริญสติในชีวิตประจำวันได้ คนไหนเจริญสติในชีวิตประจำวันไม่ได้เนี่ย โอกาสที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานในชีวิตนี้นะ ยังห่างไกลเหลือเกิน

มันยากมากเลยที่คนๆหนึ่งจะมีสติขึ้นมา สติที่แท้จริง แต่ไม่ยากเลยที่คนที่มีสติที่แท้จริงแล้ว จะบรรลุมรรคผลนิพพานในชีวิตนี้ มรรค ผล นิพพาน มีจริงๆ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
เมื่อ วันพุธที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒

CD: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วันที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
File: 520429.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๐ วินาทีที่ ๕๙ ถึง นาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

หัวใจของการปฎิบัติ อยู่ที่การมีสติในชีวิตประจำวัน

mp3 (for download): หัวใจของการปฎิบัติ อยู่ที่การมีสติในชีวิตประจำวัน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หัวใจของการปฎิบัติ อยู่ที่การมีสติในชีวิตประจำวัน

หัวใจของการปฎิบัติ อยู่ที่การมีสติในชีวิตประจำวัน

หลวงพ่อปราโมทย์: คำสอนของครูบาอาจารย์วัดป่ามีทั้งหมด 3 ขั้นตอน ต้องทำให้ได้นะ

ขั้นตอนแรกเลย ให้พุทโธ ให้กำหนดลมหายใจ แล้วแต่ความสะดวก ความถนัด พุทโธไป ทำลมหายใจไปจนใจเราสงบ

ใจเราสงบแล้วอย่าขี้เกียจขี้คร้านนะ ให้ใจออกมาทำงาน เอาใจออกมาทำงานคือมาพิจารณาร่างกายนี้ ไม่อย่างนั้นใจจะติดแต่ความสุข ความสงบ เฉยๆ อยู่ เฉยโง่ๆ นะอย่างนั้น เป็นสมาธิโง่ งั้นสงบแล้วต้องออกมาพิจารณาร่างกาย ให้ใจทำงาน หมดเวลาพุทโธพิจารณากายแล้วเนี่ย

ต้องทำขั้นตอนที่สาม คือการเจริญสติในชีวิตประจำวัน ขั้นตอนนี้ละเลยไม่ได้เด็ดขาดนะ ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด หัวใจกรรมฐานอยู่ที่การมีสติในชีวิตประจำวัน

หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่มั่นสอน หลวงพ่อไม่ทันท่านนะ ครูบาอาจารย์บอกต่อมา หลวงปู่มั่นสอนไว้บอกว่าทำความสงบมากเนิ่นช้า นี่ทำความสงบมากจะเนิ่นช้านะ เอาแต่ความสงบลูกเดียวไปไหนไม่รอดหรอก กี่ภพกี่ชาติก็ช้าอยู่น่านนะ

คิดพิจารณามากฟุุ้งซ่าน ดูกายพิจารณากายอย่างเดียวนะฟุ้งซ่าน งั้นพิจารณาไปพอสมควรแล้วก็ทำความสงบเข้ามาสลับไปสลับมา บอกว่าทำความสงบมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน

หัวใจอยู่ที่นี่นะ หัวใจอยู่ที่มีสติในชีวิตประจำวัน ต้องมีสติ มีสติร่างกายเคลื่อนไหวคอยรู้สึก จิตใจเคลื่อนไหวคอยรู้สึก ให้ดูกายให้ดูใจไป อาจารย์มหาบัวเคยสอนหลวงพ่อ การปฏิบัติไม่มีอะไรมากหรอกบอกอย่างนี้ มีสติรู้กายรู้ใจลงเป็นปัจจุบัน ไม่ใช่นั่งเคลิ้มลูกเดียวนะ เคลิ้มลูกเดียวก็ ชาติหน้าก็ไปเคลิ้มอีกนะ มันไม่มีปัญญานะ สมถะไม่ทำให้เกิดปัญญานะ ต้องมามีสติรู้กายรู้ใจลงไป ซักฟอกลงมาในกายในใจนี้ จนมันคลายความยึดถึอกายยึดถือใจได้ มันหมดความยึดถือกายยืดถึอใจได้เมื่อไหร่ก็เป็นพระอรหันต์เมื่อนั้นนะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันพุธที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๙

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๑๗
ลำดับที่  ๑
File: 491129
ระหว่างนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๕๒ ถึง นาทีที่ ๗ วินาทีที่ ๑๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

สภาวะธรรมเพียงคู่เดียวก็เพียงพอที่จะรู้สึกตัวได้ทั้งวัน

mp3 (for download): สภาวะธรรมเพียงคู่เดียวก็เพียงพอที่จะรู้สึกตัวได้ทั้งวัน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

สภาวะธรรมเพียงคู่เดียวก็เพียงพอที่จะรู้สึกตัวได้ทั้งวัน

สภาวะธรรมเพียงคู่เดียวก็เพียงพอที่จะรู้สึกตัวได้ทั้งวัน

หลวงพ่อปราโมทย์ : ในความเป็นจริงแล้วธรรมะ ถ้าเราเข้าใจแก่นของมัน เพียงอันใดอันหนึ่งก็พอนะ เพียงอันใดอันหนี่งก็พอ เพียงแค่รู้สภาวะธรรมคู่เดียวก็พอ เช่นจิตเผลอไปกับจิตรู้สึกตัว รู้แค่นี้ก็พอแล้ว รู้เป็นหลักไว้ แล้วมันก็รู้อันอื่นเองแหละ เดี๋ยวมันโกรธขึ้นมามันก็รู้เอง มันโลภขึ้นมามันก็รู้เอง จะเห็นจิต แค่รู้คู่เดียวก็พอแล้ว

คือเวลาเรียนกรรมฐาน เรียนสติปัฏฐาน เราไม่ได้เรียนตัวเดียวโดดๆหรอก เราเรียนเป็นคู่ๆ เป็นกลุ่มๆ เรียกว่าเรียนในสิ่งที่เป็นธรรมคู่ สิ่งที่เป็นธรรมคู่เช่น หายใจออกกับหายใจเข้าเป็นคู่ ทำไมต้องเรียนคู่หนึ่ง เพราะมันพลิกแพลง มันเปลี่ยนแปลงให้ดู เดี๋ยวหายใจออกแล้วมันก็หายใจเข้า หรือยืนเดินนั่งนอนนี่ก็อีกกลุ่มหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นธรรมคู่เหมือนกัน ยืนเดินนั่งนอน เดี๋ยวก็ยืน เดี๋ยวก็เดิน เดี๋ยวก็นั่ง เดี๋ยวก็นอน ทั้งวันมันก็มีแต่ยืนเดินนั่งนอน ถ้ายืนเดินนั่งนอนรู้สึกตัว ก็รู้สึกตัวได้ทั้งวัน หายใจเข้าหายใจออกแล้วรู้สึกตัว ก็หายใจรู้สึกตัวได้ทั้งวัน กรรมฐานเนี่ยนะ อันใดอันหนึ่งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คู่ใดคู่หนึ่งก็พอ พอที่จะมีสติอยู่ทั้งวัน

หรือดูเวทนาสุขทุกข์เฉยๆ ถ้ามีความสุขก็มีสติ มีความทุกข์ก็มีสติ เฉยๆ ก็มีสติ ก็คือมีสติทั้งวัน พอมีสติแล้วก็ขาดสติอีก พอมีสติกับขาดสติก็เป็นของคู่กันอีก เห็นไหม เรียนก็เรียนคู่ เรียนเป็นคู่ๆ นะ จิตมีราคะกับจิตไม่มีราคะก็เรียนเป็นคู่ๆ เวลาเรียนเรียนตัวไหน ก็เรียนตัวตัวที่มันเด่น อย่างราคะมันเกิดใช่ไหม ผุดขึ้นมาเราก็เห็นว่าจิตมีราคะ ทันทีที่เห็นจิตมีราคะ ราคะก็หายไปแล้ว กลายเป็นจิตที่ไม่มีราคะ แต่ใจเราจะไปเพ่งเล็งที่จิตที่มีราคะ มันจะไม่มาเพ่งเล็งที่จิตไม่มีราคะ งั้นบางที พูดย่อๆ ก็บอกว่าจิตมีราคะให้รู้ จิตมีโทสะให้รู้ จิตมีโมหะให้รู้ สิ่งที่ควบมาก็คือจิตที่ไม่มีราคะ ไม่มีโทสะ ไม่มีโมหะ

คนใดคนหนึ่ง คนไหนขี้โมโห ก็ดูจิตที่มีโทสะไป แล้วก็เห็นทั้งวันจิตมีสองอย่าง จิตมีโทสะกับจิตที่ไม่มีโทสะ คนไหนขี้โลภ โลภะมากตัณหามากก็ดูจิตที่มีความอยาก เดี๋ยวก็อยาก เดี๋ยวก็ไม่หาย พอรู้ว่าอยากมันก็หายไป จริงๆ แล้วดูเป็นคู่ๆ ความอัศจรรย์ของธรรมะก็คือ ให้เราเรียนรู้ธรรมคู่นะ พอรู้แจ้งในธรรมคู่เราจะรู้ธรรมหนึ่ง จะเข้ามารู้ธรรมที่เป็นหนึ่ง ส่วนธรรมที่เป็นหนึ่งต้องเฉลียวใจขึ้นมารู้เอง เฉลียวใจขึ้นมารู้เอง มันจะปิ๊งขึ้นมาเอง

ให้เราเรียนสิ่งที่เป็นคู่ๆ นี่แหละ สิ่งที่เป็นคู่ๆ มันแสดงไตรลักษณ์ให้ดู สิ่งที่เป้นหนึ่งไม่แสดงไตรลักษณ์ สิ่งที่เป็นหนึ่งก็คือธรรมหนึ่งกับจิตหนึ่ง

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันศุกร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๑

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๔
ลำดับที่  ๓
File: 510222
ระหว่างนาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๓๙ ถึง นาทีที่ ๕ วินาทีที่ ๕๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฎิบัติ ทำวันสองวันแล้วเลิก

mp3 (for download) : ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฎิบัติ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฎิบัติ

ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฎิบัติ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ฆราวาสมีจุดอ่อนที่ความต่อเนื่อง ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฏิบัติ ทำไปวันสองวันแล้วก็เลิก หายไปเป็นเดือนแล้วมาทำใหม่นะ ไม่ได้กินหรอกนะ มันต้องสู้ตาย ประเภทดูไปเรื่อยๆตั้งแต่ตื่น ยกเว้นเวลาที่เราทำงานที่ต้องคิด ยกตัวอย่างเด็กๆไปเรียนหนังสือ ต้องไปฟัง(ครูสอน)ให้รู้เรื่อง ไม่ใช่เวลาไปเจริญสติ แล้วเวลาที่เหลือรู้กายรู้ใจไป เราผู้ใหญ่ทำมาหากินต้องคิด เวลาคิดทำมาหากินก็คิดไป เวลาที่เหลือเนี่ย รู้กายรู้ใจตัวเองไป


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สวนโพธิญาณอรัญวาสี
ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เมื่อวันอังคารที่ ๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๙ หลังฉันเช้า

CD สวนสันติธรรมแผ่นที่ ๑๑
ลำดับที่ ๒
File: 490103B
นาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๐๔ ถึงนาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๓๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

นักปฎิบัติไม่หนีโลก

mp3 (for download): นักปฎิบัติไม่หนีโลก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

นักปฏิบัติไม่หนีโลก

นักปฏิบัติไม่หนีโลก

หลวงพ่อปราโมทย์ : แต่ว่ามันไม่ใช่ฝึกปฏิบัติแล้วหนีโลกนะ เรามีหน้าที่อยู่กับโลกเราก็อยู่ไป เลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัวไป การปฏิบัติก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน คอยดูใจเรา บางช่วงสมัยหลวงพ่อหัดใหม่ๆ บางช่วงอยากไปบวชอะไรอย่างนี้ เบื่อโลกนะ มีหน้าที่อยู่กับโลกมันยังมี ก็ดูเอา ดูความเบื่อไป อือมันเบื่อ เพราะมันไม่มีสาระอะไร.. โลก

จะดีกว่านั้นเลย ต่อไปเราก็จะดูเข้ามา จนกายกับใจเราเนี่ยไม่ใช่ตัวเรา เมื่อกายกับใจไม่ใช่ตัวเรามันจะไม่เบื่อโลกนะ มันจะรู้สึกเลยว่ากายกับใจมันก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกนั่นแหละ มันเป็นส่วนหนึ่งของโลกแล้วมันจะไปเบื่อโลกได้ไง

อ้า… มันยังติด มันยังรักในความเป็นเราอยู่ มันอยากให้จิตของเราดี อยากให้จิตเรามีความสุข อยากให้จิตของเราสงบ อะไรอย่างนี้ ไม่อยากสุงสิงกับใคร ลึกๆลงไปก็คือ เรารักตัวเราเองนั่นเอง

ทีนี้ถ้าเราคอยรู้กายรู้ใจ จนมันไม่มีตัวเรา มันก็ไม่รู้จะเบื่อทำไม กายกับใจนี่มันของโลกต่างหากล่ะ ก็อยู่กับโลกได้ อยู่กับโลกนะ ไม่ติดโลก แต่ว่าสบาย มีความสุข


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สวนโพธิญาณอรัญวาสี
ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เมื่อวันอังคารที่ ๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๙ หลังฉันเช้า

CD สวนสันติธรรมแผ่นที่ ๑๑
ลำดับที่ ๒
File: 490103B
นาทีที่ ๐ วินาทีที่ ๒๘ ถึงนาทีที่ ๑ วินาทีที่ ๔๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ให้ความรู้สึกเกิดก่อนแล้วก็ค่อยรู้เอา จงใจจะรู้ทำให้เครียด

mp3 for download: ให้ความรู้สึกเกิดก่อนแล้วก็ค่อยรู้เอา จงใจจะรู้ทำให้เครียด

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ให้ความรู้สึกเกิดก่อน แล้วก็ค่อยรู้เอา จงใจจะรู้ ทำให้เครียด

ให้ความรู้สึกเกิดก่อน แล้วก็ค่อยรู้เอา จงใจจะรู้ ทำให้เครียด

หลวงพ่อปราโมทย์: ให้เราคอยรู้สึกกายรู้สึกใจนะ เราเห็นกายมันทำงาน เห็นกายมันยืน มันเดิน มันนั่ง มันนอน ใจเราเป็นคนดูมัน เราเห็นจิตใจเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย คอยดูเฉยๆ อย่าไปบังคับมันนะ

ก่อนจะรู้ ก็อย่าไปจงใจจะรู้ พวกเราบางคนภาวนาแล้วเครียด เพราะว่าเราทำผิด บางคนภาวนาเครียดเนี่ย เพราะว่าก่อนจะรู้เนี่ย จงใจจะรู้ เวลาคิดถึงการปฏิบัติก็เริ่มต้นด้วยการ “ส่งจิตไปดู” แกว่งใหญ่ เที่ยวหาใหญ่ ว่าจะดูอะไรดี ใครเคยเป็นมั้ย เวลาจะดูจิตนั้นน่ะ เริ่มต้นด้วยการพยายามไปดูว่าตอนนี้มีอะไรให้ดู อย่างนี้ผิดนะ

ต้องให้ความรู้สึกเกิดก่อน แล้วก็ค่อยรู้เอา โลภขึ้นมาแล้วรู้ โกรธขึ้นมาแล้วรู้ หลงขึ้นมาแล้วรู้ ให้ความรู้สึกเกิดก่อนแล้วค่อยรู้ อย่าไปจงใจดักรอดู ถ้ารอดูเมื่อไหร่นะ จะเพ่ง ใจจะนิ่งๆ ทื่อๆ ใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราอย่าไปดักดู ให้ความรู้สึกเกิดก่อนแล้วค่อยรู้ โกรธขึ้นมาแล้วรู้ว่าโกรธ โลภขึ้นมาแล้วรู้ว่าโลภ หลงแล้วรู้ว่าหลง เห็นมั้ยให้มันเกิดขึ้นก่อน

เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ห้ามโกรธนะ โกรธก็ได้ โลภก็ได้ หลงก็ได้ เราไม่ได้ห้ามหรอก มันเกิดขึ้นมาแล้วเราคอยรู้ แต่รู้ไวๆ ไม่ใช่เมื่อวานโกรธ วันนี้ถึงจะรู้ อย่างนี้ช้าไป ใช้ไม่ได้ โกรธมาแล้ว ๓ นาที แล้วยังไม่ทันจะหายโกรธ ระลึกขึ้นได้แล้ว โอ๊ะ.. โกรธนี่ อย่างนี้ใช้ได้ นะ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ก่อนฉันเช้า
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๐
File: 521204B.mp3
ลำดับที่ ๑๒
ระหว่างนาทีที่ ๑๖ วินาทีที่ ๖ ถึง นาทีที่ ๑๗ วินาทีที่ ๓๘

 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การเดินจงกรม เมื่อมีโทสะ

mp3 for download: การเดินจงกรม

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

การเดินจงกรม เมื่อมีโทสะ

การเดินจงกรม เมื่อมีโทสะ

หลวงพ่อปราโมทย์: ที่จริงเราต้องลบภาพ ลบความรู้สึกนะ ที่ว่า การเดินจงกรมเนี่ย คือเวลาปฎิบัติธรรม ตรงนี้ต้องลบทิ้งไป แล้วก็กลมกลืนการปฏิบัติเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันจริงๆ ทุกก้าวที่เดินเนี่ย รู้สึกตัวไป

ส่วนที่เดินกลับไปกลับมานั้นน่ะ มันมีหลายแบบ บางทีก็เดินเรื่อยเปื่อย ใจลอยไป บางทีก็เดินทำสมถะนะ เดินเพ่งไป บางทีก็เดินรู้สึกไป บางทีก็รู้สึกกาย บางทีก็รู้สึกใจ หมุนไปเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้วก็คือ ทุกก้าวที่เดิน ต้องรู้สึกตัว พยายามรู้สึก ไม่ใช่ว่าจะเลิกปฏิบัติ

คำว่าปฏิบัติ เลิกไม่ได้ ต้องทำตั้งแต่ตื่นจนหลับ ยกเว้นตอนทีเผลอไป กับตอนที่ไปคิดๆ อะไรอย่างนี้ นอกนั้นต้องปฏิบัติทั้งวัน ห้ามเลิก

โยม: คือทีนี้มัน จะเลิก ไม่เลิก ที่มันรู้สึกตีกัน ก็เพราะว่า ที่สังเกตมาตลอดเวลาทำเนี่ย มันก็เป็น ส่วนใหญ่มันเป็นสมถะ รู้สึกว่า ถ้าทำสมถะไปเยอะๆเนี่ย พอไปเจริญสติในชีวิตประจำวันต่อแล้วเนี่ย สติมันว่องไว

หลวงพ่อปราโมทย์: งั้นก็เดินไป

โยม: มันรู้ มันรู้ได้เร็ว แต่ถ้าเกิด มันเดินๆไปปุ๊บ มันก็ครื้น.. แล้วก็โอ๊ย โทสะมันก็ท่วมไปหมดเลย

หลวงพ่อปราโมทย์: ก็มีสติ รู้ว่าโทสะท่วมขึ้นมานะ แล้วก็เดินไป เพราะว่าร่างกายนี้มันอยู่ในอิริยาบถใด เราก็ต้องมีสติ ถ้ามันอยู่ในอิริยาบถเดิน เราก็รู้สึกไป โทสะท่วมขึ้นมาก็รู้สึกเอา นะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ สำนักสงฆ์ สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
CD สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๑
ลำดับที่ ๑๔
FILE 500824
นาทีที่ ๕ วินาทีที่๒๘ ถึงนาทีที่๖วินาทีที่๕๖

 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ถ้าไม่ทำในรูปแบบอย่างสม่ำเสมอ กำลังจะไม่พอในการรู้สึกตัวระหว่างวัน

mp3 (for download) : ถ้าไม่ทำในรูปแบบอย่างสม่ำเสมอ กำลังจะไม่พอในการเจริญสติระหว่างวัน 

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


 

สวดมนต์

สวดมนต์

 

หลวงพ่อปราโมทย์ : คือเรา มีเครื่องช่วยอันหนึ่ง ของนักปฏิบัตินะ คือการทำตามรูปแบบบ้าง ยกตัวอย่าง ถ้าเราปฏิบัติ ดูจิตดูใจเราทั้งวัน กำลังเราไม่พอ ใจจะเหมือนรู้ตัวอยู่ ความจริงไม่รู้แล้วนะ จะคล้ายๆรู้แต่ไม่รู้ บางทีก็ไปหลงเพ่งจิต 

เพราะฉะนั้นก่อนจะนอนนะ เราไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ เดินจงกรม อะไรอย่างนี้ เราทำทุกวัน สม่ำเสมอ ไม่ละเลย ก่อนนอน คล้ายๆ เราได้พักผ่อนจิตใจของเราก่อน แล้วก็พักผ่อนร่างกายทีหลัง ตื่นเช้าขึ้นมาจิตใจของเราแช่มชื่นเบิกบาน มีสติเกิดง่าย ตามรู้ตามดูได้บ่อยๆ แต่ถ้าเราดูลูกเดียว รู้ลูกเดียว ล่ะก็ ใจเราไม่เคยได้พักผ่อนเลย กำลังบางทีไม่พอ มันปฏิบัติแล้วมันไม่สดชื่น 

ในการปฎิบัตินะ อาศัยรูปแบบเหมือนกัน แต่ไม่ใช่การติดในรูปแบบหรอก ครูบาอาจารย์ แต่ก่อน สอนหลวงพ่อ ท่านเน้นเรื่องการรู้สึกตัวในชีวิตประจำวัน ยืน เดิน นั่ง นอน ต้องรู้สึกตัว ยกตัวอย่าง หลวงพ่อพุธสอนเลย ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด นะ ให้มีสติ รู้สึกตัวไป 

หลวงปู่ดูลย์ก็ให้ดูใจตัวเอง จิตชอบส่งออกนอก จิตส่งออกนอกคือจิตมันวิ่งไปทางตา วิ่งไปดูคนอื่นแล้วลืมตัวเอง จิตวิ่งไปทางหู วิ่งไปฟังเขาคุยกันแล้วก็ลืมตัวเอง รู้เรื่องที่เขาคุยแต่ลืมตัวเอง จิตวิ่งไปทางใจหนีไปคิด รู้เรื่องที่คิดบ้าง ไม่รู้บ้าง แล้วก็ลืมตัวเอง ท่านสอนบอกให้คอยรู้ทันเวลามันหลง 

แต่ว่าก่อนนอน หลวงพ่อไหว้พระ สวดมนต์ ทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว ทำทุกวัน นั่งสมาธิ เดินจงกรม อะไรอย่างนี้ จิตใจเราได้แรง มีกำลัง ช่วงไหนละเลยไป เจริญสติในชีวิตประจำวันลูกเดียวเลย บางทีแห้งแล้งไป เหนื่อย แห้งแล้ง บางทีเห็นมันไหว ยิบยับ ยิบยับ นะ ไม่มีกำลังจะตัด ไม่มีกำลัง 


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรมที่สวนโพธิญาณ
หนองตากยา ท่าม่วง กาญจนบุรี
เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๘

  

CD สวนสันติธรรมแผ่นที่ ๙
ลำดับที่ ๑๕
File: 480821A
นาทีที่ ๑๙ วินาทีที่ ๕๘ ถึงนาทีที่ ๒๒ วินาทีที่ ๐๗
 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ถ้าอยากภาวนาง่าย อย่าทิ้งการภาวนาระหว่างวัน

mp3 (for download) : ถ้าอยากภาวนาง่าย อย่าทิ้งการภาวนาระหว่างวัน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรม

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรม

หลวงพ่อปราโมทย์ : จริงๆแล้ว เรามีเวลาที่ไม่ต้องทำงานใช้ความคิดนี่เยอะมากในแต่ละวัน แต่ละคนใช้เวลาไปทำงานที่ใช้ความคิดน่ะไม่มากเท่าไหร่ ไม่กี่ชั่วโมง สามชั่วโมง สี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง

ถ้าเวลาที่เหลือ เอามาเจริญสตินี่นะ ไปได้ง่ายเลย

แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณต้องทำแปดชั่วโมง  เวลาแปดชั่วโมงนี้ไม่เจริญสติเลยนะ ตะลุมบอนลูกเดียวนะ  ตรงนั้นกิเลสจะเกิดเยอะแยะ  เช่น ทำงานไปแล้วก็เครียด ไม่เห็นว่าเครียด   คนมา interrupt (รบกวน) เรา เราโมโห  ไม่เห็นอีก   ในใจเราจะเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา  หมดเวลาแปดชั่วโมงนี่นะ จิตใจมันน่วมไปแล้ว สะบักสะบอมไปแล้ว ดูไม่ไหวแล้ว

แต่ถ้าเราคอยรู้สึกนะ ทำงานไป พอเครียดปุ๊บ เห็นเลยว่าเครียดแล้ว ใจก็สบาย ตั้งใจทำงานไป งานก็จะดีด้วย  แล้วใจก็จะไม่บอบช้ำด้วย

CD สวนสันติธรรมแผ่นที่ ๑๐

ลำดับที่ ๘

File 481022B

นาทีที่ ๓๖ วินาทีที่ ๒๘ ถึงนาทีที่ ๓๗ วินาทีที่ ๒๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 4 of 41234